Skip to main content

Posts

Showing posts from July, 2017

Post#4-328: เจ้าของกิจการรุ่นเยาว์

Post#4-328: เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา รุ่นพี่ของผมท่านหนึ่งที่รู้จักกันมายาวนาน ... พาลูกชายที่กำลังเรียนปีสุดท้าย มาปรึกษาเรื่องแผนธุรกิจ เอาจริงๆ แม้ตารางงานผมจะยุ่งมากๆ ... แต่ก็ยินดีที่จะสนับสนุนเด็กรุ่นใหม่ไฟแรงที่คิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจเป็นของตัวเอง แล้วก็เป็นโอกาสที่ผมจะได้แลกเปลี่ยนมุมมองที่ต่างออกไปอีกด้วย ... อย่างน้อย ก็จะทำให้ผมพอเข้าใจเด็กๆ ได้ดีขึ้น ... ปัญหาส่วนใหญ่ที่เด็กๆ มักจะเจอตอนที่เริ่มต้นอยากจะทำอะไรเป็นของตัวเอง ก็คือ การวาง Roadmap ให้ชัดเจน โดยมากจะมองไปในอนาคตแค่สั้นๆ ทำให้ไม่เกิดความต่อเนื่องในการทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันและเป็นเรื่องเป็นราว เราจึงพบว่า เด็กๆ มักจะเริ่มทำธุรกิจด้วยความมุ่งมั่น แต่เลิกราไปเพราะไม่รู้จะเดินยังไงต่อดี ... ดังนั้น เด็กรุ่นใหม่ที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง จึงต้องถามตัวเองให้ชัดเจนก่อน ... ว่าอยากทำธุรกิจนั้นๆ เพราะอะไร ? เพราะแค่อยากได้ชื่อว่าเป็น " เจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่ " หรือว่ามันเกิดจาก " ความทะเยอทะยาน " ของเราจริงๆ ? จริงอยู่ ที่มันอาจจะเกินความสามา...

Post#4-327: เปลี่ยนแปลงความไม่เปลี่ยนแปลง

Post#4-327: ผมพึ่งจบจากการไปคุยงานกับเพื่อนรุ่นพี่ท่านหนึ่ง เมื่อไม่เกินชั่วโมงที่ผ่านมานี้เองครับ นับเป็นการใช้เวลาเช้าวันอาทิตย์ที่แปลกไปกว่าชีวิตปกติไปมาก ... แต่ต้องบอกว่า " คุ้มค่า " เอามากๆ ที่ว่า " คุ้มค่า " ก็เพราะธุรกิจของรุ่นพี่ท่านนั้น กำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านจาก Sole Proprietor ไปเป็น Structured Company นั่นก็แปลว่า ผมยังมีโอกาสช่วยให้รุ่นพี่ท่านนั้น ได้ปรับปรุงเพื่อความเติบโต , มั่งคั่ง และยั่งยืน ของตัวเอง ... ผมทำงานกับ Sole Proprietor มามาก ... มากจนพอสรุปได้ว่า การจะทำให้ Sole Proprietor ยอมปรับเปลี่ยนตัวเองให้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ได้น่ะ ... ก็ขึ้นอยู่กับว่า เจ้าของ จะ " ตระหนัก " ถึง " ภัยคุกคาม " ที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่หรือไม่ ? ถ้ายังรู้สึกว่า ตัวเองยังอยู่ได้สบายดี ... แบบนี้ ยากครับ ที่จะทำ Transition ได้ เพราะสุดท้าย องค์กรก็จะกลับไปเป็นแบบเดิมๆ อีก แต่ถ้ารู้สึกแล้ว ว่าการเป็น "One Man Show" นั้น ไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง ... แบบนี้ ก็มีโอกาสสูง...

Post#4-326: ปั้นดินให้เป็นดาว

Post#4-326:  เมื่อวานผมได้ทดลองเข้า Workshop ทำเครื่องประดับ Pewter ด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก จากที่ได้ไปดูงานที่โรงงานของ Royal Selangor เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ตอนแรกผมก็คิดว่า ก็แค่ทำขำๆ...แต่พอได้เรียนรู้เทคนิคแล้ว กลับอยากลองทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าสุดท้ายแล้ว ผมจะคว้าน้ำเหลว...ไม่ประสบความสำเร็จในการทำ Free-form Pewter แต่ก็ยังได้ Mold Pewter ที่หยอดเอง มาฝากลูกสาว ... อันที่จริง โลกรู้จัก Pewter มานานแล้ว ซึ่งทางวิทยาศาสตร์ได้จัดให้ Pewter เป็นหนึ่งใน Alloy (หรือ "โลหะผสม") ชนิดหนึ่ง นับจากอดีต Pewter ก็ได้รับการพัฒนาจากผู้ผลิตทั่วโลกมาตามลำดับ...จนกระทั่งปัจจุบันนี้ Pewter ไม่ได้เป็นแค่ "ดีบุก (Tin) ผสมกับตะกั่ว (Lead)" ตามที่ Dictionary แปลไว้อีกแล้ว ทาง Royal Selangor เอง ก็เลิกผสม Tin กับ Lead ไปโกฏิปีแล้วเช่นกัน โดยหันมาผสม Tin กับแร่โลหะอื่นๆ แทน คุณสมบัติที่เจ๋งมากๆ ของ Tin ก็คือ ความอ่อนตัวเมื่อโดนความร้อน จึงทำให้มาทำโลหะขึ้นรูปได้ง่ายกว่าแร่โลหะอื่นๆ นอกจากนั้น Tin ยังมีคุณสมบัติการถ่ายเทความร้อนที่เยี่ยมยอด...น้ำที...

Post#4-325: เยือนกรุงกัวลาลัมเปอร์

Post#4-325: แม้วันนี้จะเป็นวันหยุด แต่ผมก็ตื่นแต่เช้าขึ้นที่ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ ( ผมขอย่อว่า "KL" นะครับ )... เพื่อที่จะไป Market Survey รวมไปถึง Life Style Observation ด้วย เอาจริงๆ KL นั้น อยู่ใกล้เมืองไทยแค่ปลายจมูก ... ไม่รู้ว่าทำไม นี่กลายเป็นเพียงครั้งแรกที่ผมได้มาเยือน เพราะเป็นแค่ Short Trip, ผมจึงยังไม่มีโอกาสได้ซึบซาบมากนัก ว่าที่นี่มีเสน่ห์ยังไง ... แต่โดยรวม ผมตั้งใจว่า คงไม่พลาดที่จะกลับมาเยือนอีกเป็นแน่ ... เท่าที่ใช้เวลาสำรวจและสังเกตุการณ์อยู่ทั้งวัน ... ผมว่า สภาพการค้าขายและการใช้ชีวิตของคนเมืองที่นี่ ไม่ค่อยแตกต่างจากกรุงเทพฯ มากนัก ถ้าจะสรุปว่า คน KL คล้ายกับคนกรุงเทพฯ มากกว่าคนในเมืองหลวงอื่นๆ ในประเทศอาเซียน ก็ไม่น่าจะเกินไป สภาพการจราจรโดยทั่วไป ก็ดีกว่ากรุงเทพฯ เล็กน้อย ... คือรถติดอยู่บ้าง แต่ไม่สาหัสเท่า ... แต่ถ้าเป็น Tollway หรือ Highway นี่ วิ่งฉิวเลย ... ที่นี่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ถึง 60% แล้วก็ตามด้วยชาวพุทธ อีกเกือบๆ 20%... และก็ยังมีส่วนผสมของอีกหลายๆ ชาติพันธุ์อาศ...

Post#4-324: ลูกน้องในฝัน และเจ้านายในอุดมคติ

Post#4-324: มีลูกน้องหลายๆ คน ที่ผมเคยร่วมงานด้วย ... จนมาถึงวันนี้ ถ้ามีโอกาส ก็ยังอยากเชิญให้มาทำงานด้วยกันอีก เช่นกันกับทึ่ผมมีลูกน้องอีกไม่น้อย ที่ต้องลาจากกันด้วยความรู้สึกติดลบ และผมได้แต่อวยพรให้พวกเค้าไปได้ดีกับงานใหม่ ทำนองเดียวกัน ลูกน้องเอง ก็คงรู้สึกไม่ต่างจากที่เจ้านายหรือนายจ้างรู้สึก ... คือหากมีโอกาส ก็อยากกลับมาทำงานกับเจ้านายคนนี้ หรือไม่ก็หวังว่า ชาตินี้ขอให้ไม่ต้องพานพบกับเจ้านายแบบนี้อีกเลย ... ทั้งเจ้านายและลูกน้อง ต่างก็อยากทำงานกับคนที่ ทั้ง " เก่ง " และ " ดี " ในความเป็นจริง ทั้งเจ้านายที่ทั้งเก่งและดี หรือลูกน้องที่ทั้งดีและเก่ง นั้น ... ต้องนับว่าหาได้ไม่ง่ายเลย สงสัยว่า พระเจ้าท่านคงจะเล่นตลกกับชีวิตของเรากระมังหนอ ... เพราะเรามักจะได้นายที่เก่งแต่ไม่ดี หรือดีแต่ไม่เก่ง หรือทั้งไม่เก่งและไม่ดี ส่วนลูกน้องในฝันนั้น เจ้านายทั้งหลายขอให้ได้เจอคนดี ... แม้ว่าจะเก่งน้อยหน่อยก็ไม่เป็นไร เพราะหวังว่า ยังคงสอนให้เก่งได้ เพราะน้องมีความดีเป็นพื้นฐาน ... เมื่อเราเป็นลูกน้อง จงใช้คว...

Post#4-323: เมื่อปัญหาไล่ล่า

Post#4-323: ช่วงนี้ ทั้งตัวผมเองและคนรอบข้าง ต่างก็เจอปัญหานั่น นู่น นี่ สารพัดสารพัน เต็มไปหมด เมื่อเจอปัญหาหลายๆ เรื่องรุมเร้า ก็แน่นอนว่า เราก็คงต้องมีท้อบ้าง เซ็งบ้าง ... ก็แน่ล่ะครับ ก็เพราะเราเป็นปุถุชนคนธรรมดา นี่นา ต้องบอกว่า ถ้าใครเจอปัญหามากๆ เข้า แล้วไม่ท้อ ไม่เซ็งเลย สิ...จะน่าแปลกมากกว่า ... เมื่อทุกคนต่างก็ท้อและเซ็งเมื่อเจอปัญหา ... เราจะฝึกให้ตัวเราแตกต่างจากคนอื่นๆ จึงเป็นเรื่องที่ยากเหลือเกิน ยังไงก็ตาม ข่าวดีก็คือว่า ... แม้เราจะไม่สามารถฝึกให้ตัวเราไม่เซ็งหรือไม่ท้อกับปัญหาได้ แต่เราสามารถฝึกให้เราตอบโต้ต่อปัญหาในทางที่ถูกและควรได้ หากเราสามารถฝึกให้เราเข้าใจสัจธรรมแห่งปัญหาได้ ... เราก็จะเลือกทางแก้ปัญหาได้โดยทำให้เรา " บาดเจ็บ " น้อยที่สุด ... และทุกสิ่งทุกอย่างในการรับมือกับปัญหา ก็มาจาก " ทัศนคติ " ที่เรามีต่อปัญหา เป็นสำคัญ ตราบเท่าที่เราบอกตัวเองได้ว่า ท้อได้ แต่จะไม่ถอย หรือเซ็งได้ แต่จะไม่หนี ... เท่านี้ล่ะครับ ก็เท่ากับว่า เรายังไม่ถึงคราว " จนมุม " ต่อปัญหาที...

Post#4-322: ประเทศไทย 4.0

Post#4-322: หลายวันก่อน ผมมีโอกาสได้สนทนากับบุคคลสำคัญทึ่ถือเป็นชนชั้นวิชาการอยู่นานพอดู ประเด็นที่สนทนากัน ก็จะเกี่ยวเนื่องกับลักษณะนิสัยบางอย่างของประชาชนในประเทศที่กำลังพัฒนา ออกตัวก่อนนะครับ ว่าไม่ได้หมายความว่า ทุกคนในประเทศกำลังพัฒนา จะต้องมีนิสัยแบบนี้ไปเสียหมด ... แต่พอจะอนุมานได้ว่า มีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว นิสัยที่ว่า ก็คือ " นิสัยขี้โทษ " ... ใครก็ตามที่โยนสาเหตุของปัญหาที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่ ให้เป็นความผิดของปัจจัยภายนอกทั้งหมด ... ถือว่าเข้าข่ายเป็นพวก " ขี้โทษ " เช่น สุขภาพไม่ดี ก็โทษเพียงแต่ว่า เป็นเพราะรัฐไม่ได้เตรียมการเรื่องสาธารณสุขได้ดีเพียงพอ แต่ไม่เคยมองไปว่า การใช้ชีวิตของตนเองต่างหาก ที่ทำให้ตัวเองต้องเจ็บป่วย หรือเช่น การที่ค้าขายส่งออกไม่ดี ก็โทษว่าเป็นเพราะรัฐปล่อยให้เงินบาทแข็งค่า จนแข่งขันไม่ได้ แต่ไม่เคยมองว่า เพื่อนร่วมอุตสาหกรรมเค้าปรับตัวไปถึงไหนแล้ว ไม่ใช่มัวแต่ด่าคนอื่นว่าทำได้ไม่ดี แต่ตัวเองไม่เคยคิดจะปรับปรุง ... ถึงตรงนี้ การที่ประเทศไทยจะก้าวไปสู่ยุค 4.0 ตาม...