Post#5-008:
บ่ายนี้ ผมประชุมกับ Partner ชาวจีน เกี่ยวกับ project ใหม่ ที่อยากจะทำร่วมกัน
อะไรที่เราเคยเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการทำงานในประเทศไทย...ก็ดูเหมือนจะนำมาใช้กับประเทศที่ใหญ่โตอย่างประเทศจีนไม่ได้เอาเสียเลย
เหตุผลง่ายๆ ก็คือ...ก็เพราะแค่มณฑลหนึ่งของจีน...ก็มีขนาดใหญ่กว่าประเทศไทยทั้งประเทศไปแล้ว
...
มันเหมือนเราเข้าใจโลก...แต่ไม่อาจจะเอาความเข้าใจที่เรามีต่อโลก ไปวิเคราะห์จักรวาลได้...ประมาณนั้นเลย
มาคุยงานกับชาวจีนที่นี่...เหมือนผมเริ่มต้นเรียนอนุบาลใหม่อีกครั้ง ซึ่งทำให้ผมออกจาก Comfort Zone เดิมที่มี
ทุกครั้งที่ได้ออกจาก Comfort Zone...แรกๆ ก็จะรู้สึกกังวลนิดหน่อย แต่ก็จะตามด้วยความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้โลดแล่นและเรียนรู้ในเรื่องที่ไม่เคยรู้
นี่เอง...จึงเป็นความสนุกของการมาหาความท้าทายในดินแดนที่ไม่รู้จัก
นี่เอง...จึงเป็นความท้าทายที่ทำให้ความจำเจเดิมๆ หายไป
...
หากเราไม่อาจนำหลักฟิสิกส์ใดๆ บนโลกไปใช้กับดาวพฤหัสฯ ได้ ฉันใด...ก็หมายความว่า เราไม่อาจใช้หลักการตลาดของไทยไปใช้กับประเทศจีนได้ ฉันนั้น
เท่าที่สัมผัสมาหลายครั้งมากหน...จีนเป็นประเทศที่ประเมิน Partner ที่โต๊ะอาหาร มากกว่า ที่โต๊ะประชุม
แปลว่า ชาวจีนอ่านเรายามที่มีสติสัมปชัญญะไม่พร้อมมูลที่จะครองเรือนกาย...มากกว่าจะประเมินเราจากคำพูดสวยหรูบนโต๊ะประชุม
หรือเค้าจะมั่นใจว่า คนเมาไม่โกหก?
...
สองวันที่ผ่านมา...ผมคิดว่าผมดื่มเหล้ามากกว่าสองปีที่ผ่านมาเสียอีก ^^
ประสบการณ์ใหม่นี้...คงทำให้ผมลืมเลือนได้ยาก และสอนให้ผมเรียนรู้ว่า อย่าได้ริอ่านท้าคนจีนดื่มเหล้าเป็นอันขาด โดยเฉพาะคนจากมณฑลเหอหนาน ที่คนจีนด้วยกันยังไม่กล้าสู้
...Make friend before make business ยังคงเป็นจริงเสมอ สำหรับชาวเอเซียครับ...
#NoteToSelf:
- คุยงานใช้เวลาเพียงครู่...แต่คุยกันฉันเพื่อนกลับใช้เวลาข้ามคืน
- ความ "เชื่อใจ" จึงต้องสื่อผ่านความ "สัมพันธ์"...หาใช่แผนธุรกิจไม่
- ไม่ชนแก้วจึงไม่อาจรู้หน้า...และไม่เปิดใจจึงไม่อาจเชื่อใจครับ ^^
Comments
Post a Comment