Post#5-014:
ผมเชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยได้ยินประโยคประมาณว่า “จะสำเร็จยิ่งใหญ่แค่ไหน...ก็ให้ดีใจแค่วันเดียว” กันมาบ้างนะครับ
ใครเป็นคนแรกที่กล่าวไว้ก็ไม่อาจรู้ได้...แต่ผมได้ยินครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน สมัยยังทำงานอยู่กับ Chain Store ยักษ์ใหญ่
ครั้งแรกที่ได้ยิน...ผมรู้สึกเหมือนเป็นแค่ประโยคเท่ๆ เสียมากกว่า
แต่เมื่อผ่านวันเวลามามากขึ้นและมากขึ้น...ผมกลับคิดว่า ประโยคนี้สอนใจและเตือนสติเราได้ดีเหลือเกิน
...
ก็เพราะหากเรามัวแต่หลงระเริงหรือชื่นชมอยู่กับความสำเร็จที่เพิ่งจะผ่านไป...เราก็จะกลายเป็นพวกหลงงมอยู่กับอดีต
คิดอยู่แต่ว่า “ข้าเจ๋ง”, “ข้าเก่ง” และ “ข้าเยี่ยม”...เจ้า ego ก็จะพองตัวใหญ่ขึ้นๆ จนกินสมองและเกาะกุมหัวใจ
แล้วในที่สุด เราก็จะติดกับดักความสำเร็จของตัวเอง และก้าวเข้าสู่ Comfort Zone โดยไม่รู้ตัว
Comfort Zone ที่ว่า ก็คือ Comfort Zone ที่ทำให้เราไม่กล้าคิดหาหนทางใหม่ๆ ที่ต่างไปจากที่เคยทำสำเร็จไว้ในอดีต...นั่นเอง
...
แต่เวลาที่เราล้มเหลว...ผมกลับคิดว่า เราไม่ควร “เสียใจแค่วันเดียว”...แล้วก็กลับมาใช้ชีวิตปกติเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อเราผิดพลาดหรือล้มเหลว...มันเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง ที่เราจะต้องวิเคราะห์หาสาเหตุให้เจอ ว่าเราพลาดตรงไหน ผิดยังไง?
หาไม่แล้ว...เราจะไม่มีวันได้ฉลองความสำเร็จเหมือนคนอื่นๆ เป็นแน่
...
แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว...เราอยากจะดีใจหรือเสียใจหลายๆ วันก็ได้...ไม่ใช่เรื่องผิดหรอกครับ
แค่ต้องกำกับตัวเองว่า สำเร็จก็ตรึกให้รู้ และล้มเหลวก็ตรองให้ชัด...ว่าเพราะเหตุใด เราจึงสำเร็จหรือล้มเหลว?
หากว่าเราวิเคราะห์ได้อย่างเฉียบคมแล้วล่ะก็...คราวหน้าก็จะทำสำเร็จได้อีก หรือคราวหน้าจะได้ไม่พลาดซ้ำ ยังไงล่ะครับ
แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ...
...ต้องเตือนสติตัวเองให้มากๆ ว่า อย่าปล่อยให้ “ดีใจ” จนกลายเป็น “ลำพอง” และอย่าปล่อยให้ “เสียใจ” จนกลายเป็น “จมจ่อม”...
NoteToSelf:
- ไม่ว่าจะดีใจจนเหลิง หรือเสียใจจนบ้า...ต่างก็ไม่ใช่เอกัคคตารมณ์ที่ควรคงไว้นาน
- ยามทดท้อ จงปลอบขวัญตนเองด้วยความสำเร็จที่เคยมี และยามรุ่งเรือง จงเตือนสติตนเองด้วยความล้มเหลวที่เคยผ่าน
- อย่าดีใจจนสุดโต่งและอย่าเสียใจจนสุดขั้ว...ที่ปลายทางทั้งสองข้าง ล้วนเป็น Comfort Zone ที่เข้าไปแล้วออกยาก
Comments
Post a Comment