Post#5-009:
สองสามวันมานี้...ผมรู้สึกว่าได้ใช้ชีวิตแบบค่อนข้าง Slow Life นิดหน่อย
เอาจริงๆ ผมใช้ชีวิตในการ "กินและดื่ม" กับ "พูดคุยถึงเรื่องทั่วไป"...มากกว่าที่จะใช้เวลาไปกับ "การประชุมแบบมีแบบแผน" หรือ "การคุยแผนธุรกิจ" เสียอีก
ค่าที่ว่า วิธีทำงานของคนจีนที่เป็นระดับเจ้าของกิจการนั้น...ค่อนข้างต่างจากทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง
พวกเค้าใช้วิธีทำความรู้จักตัวเรา มากกว่าอยากจะทำความรู้จักวิธีทำงานของเรา
แปลว่า...เรามักจะใช้เวลาในการคุยเรื่องส่วนตัว...สืบประวัติ, พื้นเพ, บ้านเกิด และเรื่องอื่นๆ มากกว่าจะคุยกันเรื่องธุรกิจ
...
ผมวิเคราะห์ว่า หากชาวจีนมั่นใจว่า ถ้า "เชื่อมั่น" เราได้...ก็คงจะ "เชื่อถือ" แผนธุรกิจของเราได้
กลับกัน...ถ้าเค้าคิดว่า ไม่สามารถจะเชื่อถือเราได้ ต่อให้แผนงานของเราเลอเลิศยังไง ก็ไม่มีผลทั้งสิ้น
ย้อนกลับไปคิดถึงสมัยผมยังเด็กๆ...อากงของผมก็เคยสอนไว้เช่นกันครับ...ว่าจะทำธุรกิจได้ จำต้องสร้าง "trust" ให้ได้เป็นอย่างแรก
ไม่มี "ความน่าเชื่อถือ" ก็เท่ากับ "ไม่มีเครดิต" นั่นเอง
...
ผ่านมาสองสามวัน...แม้ว่าคนที่ผมพานพบจะใช้เป็นบรรทัดฐานในการตัดสินคนจีนทั้งประเทศไม่ได้...แต่ก็คงพอจะใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้นิดหน่อย
คนจีนคุยกับเรา...จะเน้นการมองลึกไปในแววตา...ราวกับจะมองทะลุไปให้เห็นจิตใจ
คงเพราะชาวจีนอาจเชื่อว่า "ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ"...ซึ่งไม่ต่างจากชาติพันธ์เอเชียชาติอื่นๆ
ดังนั้น ถ้าขาย "ตัวเอง" ให้พวกเค้าเชื่อไม่ได้...ก็แปลว่า เราปิดโอกาสในการทำงานกับพวกเค้านั่นเอง
ผมมานั่งนึกย้อนดู...ก็เกิดความเห็นด้วยอย่างยิ่งว่า การที่เราต้องศึกษาคนที่จะมาทำธุรกิจด้วยนั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง
...
ไม่ต่างจากการที่จะรับใครเข้ามาทำงานด้วย
ไม่ใช่ว่ารับใครก็ได้...หากแต่ต้องรับใครที่มีทัศนคติไม่แตกต่างกันจนสุดลิ่มทิ่มประตู
หากเราต้องเลือกว่า ไม่ใช่จะทำธุรกิจกับใครก็ได้ ฉันใด...ก็หมายความว่า ไม่ใช่จะรับใครเข้ามาทำงานก็ได้ ฉันนั้น
...
ไม่ช้าก็เร็ว...ประเทศจีนก็จะต้องกลายเป็นชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกอย่างแน่นอน
หากไม่เรียนรู้และหยั่งซึ้งถึงอุปนิสัยของชาวจีน...ก็ยากยิ่งที่เราจะเกาะกระแส Chinese Globalization ได้
และ "การอ่านคน" นั้น...แท้จริงแล้ว สำคัญมากยิ่งไปกว่า "การอ่านความสามารถของคน"
...ขอศิโรราบให้กับวิถีธุรกิจของแดนมังกร...ซึ่งน่าจะเป็นรากเหง้าและต้นกำเนิดของวิถีการทำงานของชาวเอเชียทั้งทวีป...
#NoteToSelf:
- ทำความรู้จักกันเป็นเรื่องใหญ่...ทำความรู้จักงานเป็นเรื่องเล็ก
- รับคนที่มีทัศนคติตรงกันเป็นส่วนมาก จึงถือเป็นเรื่องใหญ่...เก่งน้อยหน่อยก็ฝึกกันได้ แต่เชื่อต่างกันนั้น เปลี่ยนกันได้ยากแท้
- "เชื่อถือ" ต้องเกิดจาก "เชื่อมั่น"...และ "เชื่อมั่น" ย่อมต้องเกิดจาก "เชื่อใจ"
Comments
Post a Comment