Post#5-017:
ระหว่างเดินทางไปประชุมช่วงเย็นในเมือง...ผมนั่งอยู่บนรถ ทอดสายตาฝ่าสายฝนไปบนท้องถนนของใจกลางกรุงเทพฯ
ไม่รู้มีใครรู้สึกอย่างผมบ้างมั๊ยหนอ...ว่าเวลานั่งมองสายฝนแล้วมันเหงาๆ อย่างบอกไม่ถูก
หรือจะเป็นเพราะว่านางฟ้าและเทวดาร้องไห้...ก็เลยทำให้เราเหงาๆ เศร้าๆ ทุกครั้งที่มองสายฝน?
...
เอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าสิ่งมีชีวิตอื่นบนผืนโลก จะมีอารมณ์กวีแบบมนุษย์บ้างมั๊ย?
แต่ผมค่อนข้างเชื่อมั่นว่า ก็เพราะอารมณ์กวีที่มีอยู่ในตัวของมนุษย์นี่เอง ที่เป็นตัวแสดงว่า มนุษย์มีศักยภาพทางสมองมากกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
และนั่นจึงทำให้มนุษย์เป็นเจ้าแห่งบรรณพิภพในยุคปัจจุบัน
...
ทำไมผมจึงค่อนข้างจะมั่นใจว่า อารมณ์กวี เป็นสิ่งยืนยันถึงศักยภาพทางสมองของมนุษย์?
ลองสังเกตดูก็ได้ครับ
เวลาที่เราต้องเรียงร้อยความคิดออกมาเป็นบทความให้คนอื่นเข้าใจได้นะ มันต้องใช้ความสามารถไม่น้อยเลย
ยิ่งโดยเฉพาะถ้าเราต้องเล่าเรื่องราวเป็นร้อยกรองด้วยแล้ว...ยิ่งต้องใช้ศักยภาพในการกลั่นกรองทั้งคำและฉันทลักษณ์ไปพร้อมๆ กับการถ่ายทอดเรื่องราวอีกด้วย
หรือจะลองดูจากเพลงก็ได้ครับ
บางเพลงนี่...ถ้าเราเอาเนื้อเพลงมากางดู มันช่างบาดลึกและสะเทือนอารมณ์ของเราได้อย่างน่าอัศจรรย์
ยิ่งถ้าเข้ากับทำนองที่ลงตัวด้วยแล้ว...ฟังแล้ว ก็อาจทำให้ยิ้มหรือร้องไห้ในเสี้ยวนาทีได้เหมือนกัน
นี่เอง...ผมจึงสรุปว่า มนุษย์มีศักยภาพทางสมองที่เยี่ยมยอดเสียจริง!
...
เมื่อพระเจ้าประทานสมองอันยอดเยี่ยมให้กับมนุษย์...พระองค์ก็อาจจะตั้งใจมอบหัวใจที่อ่อนโยนให้กับมนุษย์ไว้พร้อมกันด้วย
หัวใจอันอ่อนโยนของมนุษย์นี่เอง ที่ทำหน้าที่ควบคุมสมองให้กลั่นกรองบทกวีออกมาได้
ท่านคงทราบล่วงหน้ากระมังครับ
...ว่าถ้ามีสมองแต่ไร้หัวใจ...โลกนี้ก็คงไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่นัก!...
#NoteToSelf:
- ฝนตกทีไร...ใจมันจะเหงาๆ เศร้าๆ / ชะรอยพระเจ้าท่านคงตั้งใจจะสะกิดมนุษย์ทั้งหลาย ว่าอย่าลืมหัวใจอันอ่อนโยนเสียล่ะ
- แต่แปลกจัง...ฝนตกหนักๆ ทีไร เราก็มักจะเงยหน้ามองฟ้า แล้วก็บ่นว่าเทวดาไปเสียทุกที...ก็ฝนตกรถติดนะสิ!
- ฝนตกก็ตกไป, รถจะติดก็ติดไป / เราก็ทำใจร่มๆ ชมนกชมไม้ไป / จะหงุดหงิดไปทำไม มันก็ไม่ได้ช่วยให้ฝนหยุดหรือรถติดน้อยลงเสียหน่อย
Comments
Post a Comment