Post#5-030:
จะแปลกมั๊ยครับ...ถ้าผมจะบอกว่า ผมชอบดู “โฆษณา” มากกว่า “ละคร”?
ไม่ใช่อะไรหรอกครับ...ก็เพราะแค่ “โฆษณา” นั้น มักจะมี idea อะไรดีๆ ซ่อนอยู่ นั่นเอง
ส่วน “ละคร” สมัยนี้...แม้จะมีการสอดแทรกข้อคิดไว้บ้าง แต่หลักๆ แล้วก็ยังไม่ฉีกแนวไปจากสมัยก่อนสักเท่าไหร่
...
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้น ว่าทำไมการดูหรืออ่านโฆษณามากๆ แล้วช่วยลับสมองได้ดีจัง
หลายๆ ท่าน คงจะคุ้นเคยดีกับประโยคประมาณว่า “เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส” กันดีนะครับ
หลักฐานก็คือพวกโฆษณาขายคอนโดหรือบ้านจัดสรรต่างๆ นั่นเอง
เพราะไม่ว่าจะมีจุดด้อยหรือข้อติหรือข้อไม่ดีแบบไหน...บรรดาเหล่า Creative ทั้งหลาย ก็จะบิดคำพูดให้กลายเป็นข้อดีได้ทุกครั้งไป
...
ในชีวิตจริง...มุขแบบนี้ เราก็ควรจะ “ครูพักลักจำ” มาใช้ในเวลาเจรจาธุรกิจบ้าง
เรารู้จุดด้อยของตัวเรา...แต่ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยทั้งหมด หากว่ามันไม่ใช่ประเด็นที่คู่เจรจาให้ความสนใจ
และหากว่ามันเป็นประเด็น...เรามองหาวิธีลดทอนจุดด้อยนั้นลงบ้างได้มั๊ย?
หรือหาจุดดีอื่นมาหักกลบกับจุดด้อยได้รึเปล่า?
การยอมรับว่าเรามี “จุดด้อย” เป็นเรื่องที่ “ไม่ผิด”...เป็นเรื่องที่ควรทำ แต่ต้องทำอย่าง “ฉลาด”
การรู้จักหาแง่มุมมาชดเชย “จุดด้อย”...ต่างกันโดยสิ้นเชิงกับการปิดบังหรือหลอกลวงอีกฝ่ายนะครับ
อย่า “แกล้งมึน” เอามาปนกัน
...ฉลาดเจรจา ต้องยก “จุดดี” เข้าตี และลดทอนการถูกโจมตี “จุดด้อย” ครับ...
#NoteToSelf:
- เป็นธรรมดาของการต่อรอง ต้องรู้จัก “รุก” และ “รับ”...วางแผนเข้าตีให้ดี และวางแผนตั้งรับให้สมเหตุสมผล
- การบิดประเด็นเจรจา กับการปิดบังหรือโกหกนั้น ไม่เหมือนกัน...แบบแรกคือการลดทอนความรุนแรงของการถูกโจมตี แต่แบบหลังคือการไม่มีจริยธรรมทางธุรกิจ
- ดูหนังดูละคร...ดูเพลินๆ ก็ผ่านไป แต่ถ้า “ดูหนังดูละครแล้วย้อนดูตัว” น่ะ...จึงจะน่าชื่นชม
Comments
Post a Comment