Post#5-049:
เคยคุยกับคนที่มี Hidden Agenda (หรือภาษาไทย เรียก “วาระซ่อนเร้น”) อยู่ตลอดเวลาบ้างมั๊ยครับ?
สารภาพว่า ผมจะรู้สึกอึดอัดไม่น้อย เวลาที่ต้องเจอคนที่มีวิธีการคุยแบบนี้
แต่ว่ากันตามจริง ก็ใช่ว่าคนที่มักจะมี Hidden Agenda นั้น จะต้องเป็นคนไม่ดีหรอกนะครับ...เจตนาที่แท้จริง ก็อาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้ เพียงแต่ อาจจะพูดตรงๆ ไม่ค่อยจะเป็น ก็เท่านั้น
...
ปกติ เราก็มักจะเจอเรื่อง Hidden Agenda ได้บ่อยๆ ในยามที่เราต้องเจรจาทางธุรกิจ อยู่แล้ว
มันก็เป็นการชิงไหวชิงพริบกันนั่นเองครับ...ในจริงอาจมีเท็จปนบ้าง ในเท็จอาจมีจริงซ่อนอยู่ ประมาณนั้น
ในตำราพิชัยสงครามของจีน ก็มีสอนไว้ เช่น ส่งเสียงบูรพา ฝ่าตีประจิม คือหลอกว่าจะเข้าตีทางตะวันออก แต่จริงๆ เข้าตีทางตะวันตก นั่นเอง
...
รวมความแล้ว คนเราต่างก็อาจมี Hidden Agenda กันบ้าง ไม่มากก็น้อย...เจตนาดีบ้าง เจตนาร้ายบ้าง
แต่ต้องเตือนตัวเองไว้ครับ ว่าถ้าการมี Hidden Agenda อยู่ตลอดเวลานั้น มันทำให้เรากลายเป็นบุคคลที่ไม่ค่อยน่าคบหา
...
เอาจริงๆ มันมีความแตกต่างกันมาก ระหว่าง “ไม่เปิดเผย” กับ “มีวาระซ่อนเร้น”
เพราะ “ไม่เปิดเผย” น่ะ...อีกฝ่ายรู้ว่าเราตั้งใจปกปิด ซึ่งเป็นความไม่เปิดเผยที่เปิดเผย
แต่ “มีวาระซ่อนเร้น” น่ะ...อีกฝ่าย “รู้สึก” ว่า เราพยายามซ่อนอะไรไว้อยู่ ซึ่งเป็นความเปิดเผยในความไม่เปิดเผย
...วิธีการเจรจาหรือพูดคุยแบบไหน ที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกสบายใจที่จะ deal งานกับเรามากกว่ากัน?...
#NoteToSelf:
- การทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเรามี Hodden Agenda...เป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน
- ในการเจรจาธุรกิจ...ถ้าเป็นข้อมูลที่บอกไม่ได้หรือไม่อยากบอก...ก็ควรแจ้งอีกฝ่ายตรงๆ / แต่การบิดเบือนหรืออ้ำอึ้งในเรื่องข้อมูลนั้น มักจะทำให้ deal ธุรกิจล้มเหลว
- การเปิดเผยว่าไม่เปิดเผย เป็นความจริงใจ...ส่วนการเสแสร้งว่าเปิดเผย เป็นความหลอกลวง
Comments
Post a Comment