Post#5-032:
เมื่อคืนนี้ ผมไปนั่งคุยงานกับเพื่อนๆ เกี่ยวกับธุรกิจที่ทำร่วมกัน...และมันกำลังจะไปไม่รอดด้วยสาเหตุหลายๆ เรื่อง
หลังใช้เวลาเพียงชั่วครู่ ฟังเพื่อนที่รับผิดชอบสรุปสถานการณ์ให้ฟัง...ผมก็ตัดสินใจได้แทบจะทันที ว่าควรจะ “หยุด” ดี หรือว่าจะ “ไปต่อ” ดี
เอาจริงๆ ไอ้คำถามว่า จะ “หยุด” หรือ “ไปต่อ” นี่...มันออกจะยากไม่ใช่เล่นเลย สำหรับคนที่พึ่งเริ่มทำธุรกิจใหม่ๆ
ลองคิดตามผมมั๊ยครับ...ว่าเราควรตัดสินใจ “หยุด” ธุรกิจ ที่กำลังทำอยู่ ด้วยเกณฑ์อะไรดี?
...
แน่นอนว่า เกณฑ์ที่ผมใช้ ย่อมไม่ใช่ “สูตรสำเร็จ” สำหรับทุกๆ คน...แต่ผมมักจะใช้เกณฑ์นี้บ่อยๆ กับการตัดสินใจว่าจะ “หยุด” หรือ “ไปต่อ” กับหลายๆ เรื่อง
สำหรับธุรกิจ...ผมเลือกที่จะ “หยุด”...ทันทีที่แน่ใจแล้วว่า กำลังจะเข้าสู่สถานการณ์ “ขาดทุนแบบไม่มีอนาคต”
แปลว่าอะไร?
ก็แปลว่า บ่อยครั้งที่แม้ธุรกิจจะยังขาดทุน ผมก็ยังยินดีและพร้อมที่จะลงทุนเพิ่ม ถ้าวิเคราะห์แล้วว่า ในอนาคต มันมีแนวโน้มจะพลิกกลับมากลายเป็นรายได้
พูดง่ายๆ ว่า แม้จะขาดทุน แต่รู้ชัดๆ ว่า ทำไมถึงขาดทุน?, ขาดทุนแล้วแก้ได้มั๊ย? และมองเห็นแนวโน้มที่ดี...แบบนี้ ผมไปต่อ
แต่ถ้าทำแล้วขาดทุนบ้าง-กำไรบ้าง...แต่ไม่รู้ชัดๆ ว่าทำไมถึงขาดทุนหรือกำไร?...แบบนี้ ผมเลือกหยุดได้โดยไม่คิดลังเล
เพราะถ้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในอดีต...ก็จะงงๆ งมๆ อยู่กับปัจจุบัน และทำให้ไม่รู้ว่าจะมุ่งไปไหนในอนาคต นั่นเอง
...
ไม่เฉพาะกับเรื่องธุรกิจครับ
กับเรื่องความสัมพันธ์...ผมก็ใช้เกณฑ์นี้เช่นกัน...เพียงแต่ตัวชี้วัดไม่ใช่เรื่องกำไร-ขาดทุน ก็เท่านั้น
ดังนั้น...ลองถามตัวเองดูดีๆ ครับ
เรากำลังทำให้ความสัมพันธ์กับใครบางคน อยู่ในข่าย “ขาดทุนแบบไม่มีอนาคต” อยู่รึเปล่า?
...จำไว้เถิดครับ...ว่าถ้าไม่ยอมลงทุน (give) ก่อน...ก็อย่าหวังว่าจะมีโอกาสได้กำไร (take) กลับมา...
#NoteToSelf:
- ถ้าไม่แน่ใจว่าจะ “หยุด” หรือ “ไปต่อ”...ก็จงหยุด เพราะมันแปลว่า เรามองเห็นอนาคตของมันได้ไม่ชัดเจนนั่นเอง
- กับความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน...ถ้าเราไม่ลงทุนหัวใจ...ทำไมถึงคิดว่าจะได้หัวใจของคนอื่นกลับมา?
- ลงทุนธุรกิจคาดหวังผลกำไร...แต่ลงทุนกับความสัมพันธ์...แค่ได้ความสบายใจกลับมา ก็คุ้มค่ามากแล้ว
Comments
Post a Comment