Skip to main content

Post#5-035: เรื่องเยอะ

Post#5-035:
ไม่ว่าจะไปทำงานที่ไหนก็ตาม...เราก็จะต้องเจออย่างน้อย 1-2 คน ที่เป็นพวกเรื่องเยอะ

เอาจริงๆพวกเรื่องเยอะนี่...ผมให้คำนิยามได้ลำบากอยู่ไม่น้อย

ก็ประมาณว่า เราคุยด้วยแล้วอึดอัด นู่นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่ได้ นั่นก็ไม่ชอบ โน่นก็ไม่ทำ...ลงท้ายแล้ว ทำให้เราก็ไปไม่เป็น ด้วยเพราะไม่รู้ว่าจะ deal กับท่านยังไงดี

...

แล้วเราจะทำยังไงดีหนอ หากว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้อง deal งานกับท่าน”?

อืมม...ผมอยากจะตอบว่าตัวใครตัวมันจริงๆ ครับ เพราะแค่นึกถึงความเยอะของท่านแล้ว มันทำให้เพลียใจเสียเหลือเกิน

แต่ส่วนมากผมจะทำแบบนี้ครับ...

หนึ่ง...กำหนดทางเลือกแบบปรนัยให้ อย่าให้ท่านเลือกอะไรแบบเป็นคำถามปลายเปิด

สอง...อย่าให้เวลาท่านตัดสินใจนานเกินจำเป็น แต่ก็อย่ากระชั้นจนเกินงาม เรียกว่า กำหนดระยะเวลาที่แน่นอนให้เลย โดยย้ำท่านด้วยว่า ถ้าเลยเวลาแล้ว เราจะเลือกแบบนั้น หรือแบบนี้ ให้เลย

และสาม...แจ้งผลกระทบที่จะเกิดขึ้น จากความเยอะของท่านให้ท่านได้รับทราบไว้ล่วงหน้า เช่น ถ้าไม่ทำเรื่องนี้ จะทำให้งานช้า และถ้างานช้า เราก็จำเป็นจะต้องดำเนินการอะไรบ้าง

...

แต่บางครั้ง มาคิดในมุมกลับดูบ้างก็ดีนะครับ...

ว่าในขณะที่ เราคิดว่าคนอื่นกำลังเยอะกับเรานั้นน่ะ จริงๆ แล้ว เราเองรึเปล่า ที่กำลังเป็นฝ่ายเยอะใส่คนอื่นอยู่?

เพราะผู้คนส่วนใหญ่มีนิสัยขี้โทษอยู่ในตัว...อย่ากังวลไปเลยครับ เพราะมันเป็นธรรมชาติในตัวคนเรา

...ดังนั้น ก่อนจะปรักปรำว่าใครเยอะ”...ก็ขอให้แน่ใจจริงๆ เสียก่อน ว่าเราน้อยก็แล้วกันนะเออ...

#NoteToSelf: 

  • โน่นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่ดี...อะไรว้า #SandBank #เกิดทันกันมั๊ย?
  • ถ้าทางเลือกที่ผู้อื่นเสนอมา ยังไม่โดนใจ เรามีสิทธิ์ปฏิเสธได้...แต่ควรมีทางเลือกเสนอกลับไปด้วย...ไม่ใช่บอกแต่ว่าไม่ดี ไม่เอาแต่ตัวเองก็ไม่รู้จะทำยังไง
  • ชีวิตมันก็วุ่นวายพอแล้ว...มันคงจะดีไม่น้อย ถ้าจะลดความเยิ่นเย้อยุบยับลงบ้าง

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...