Post#2-298:
หนึ่งในความตั้งใจของผมที่พยายามอย่างยิ่งที่จะทำ ก็คือ การประชุมให้มีความสุข
หลายปีก่อน ผมเป็นพวกคนแบกโลก ที่หน้าตาเคร่งเครียดคิ้วขมวดอยู่ตลอดเวลา ยิ่งหน้าตาไม่ดีอยู่แล้ว ยิ่งดูไม่น่าเสวนาด้วยเป็นทวีคูณ
ผู้ใหญ่หลายๆ ท่านเคยแชร์ให้ผมฟังว่า เมื่ออายุมากขึ้นๆ ความคิดก็จะเริ่มเปลี่ยนไป เริ่มรู้จักที่จะละที่จะวางอัตตา ตัวกู ของกู...ผมเห็นด้วย และผมเองก็ใช่ว่าจะทำได้ทุกครั้ง แต่ก็ปล่อยวางได้มากขึ้น
และแม้จะยาก...ผมเองก็พยายามที่จะเปลี่ยนจากคนแบกโลก...ไปเป็นคนกอดโลก...ซึ่งเป็นเป้าหมายที่พยายามจะทำให้ได้ในชาตินี้ ^^
...
ความพยายามของผมจึงมักจะปรากฏในรูปแบบของการทำให้มากเท่าที่จะทำได้ที่จะทำให้คนรอบข้างมีรอยยิ้ม
ยิ่งโดยเฉพาะการประชุมด้วยแล้ว แม้มันจะมีช่วงที่เครียดแสนเครียด ผมก็จะพยายามให้มีรอยยิ้มเปื้อนอยู่บนหน้าของทุกคนบ้าง...ผมเชื่อว่าเราประชุมจริงจังโดยไม่ต้องเคร่งเครียดจนเกินงามได้
เมื่อไหร่ก็ตามที่การประชุมเริ่มเคร่งเครียด ใจก็มักจะขุ่นมัว และความขุ่นมัวนี่เองครับ ที่เป็นตัวปิดกั้นไม่ให้ความคิดสร้างสรรค์ทำงาน...ลงท้ายประชุมที่เคร่งเครียดจึงมักจะจบลงด้วยความไม่จบ หรือไม่ก็จบไม่สวย
แต่ก็ใช่ว่า การประชุมเคร่งเครียดเป็นการประชุมที่ผิดนะครับ หากแต่ในความเคร่งเครียดนั้น ควรต้องแทรกการผ่อนคลายเข้าไปบ้าง...ตึงมากไป อารมณ์ก็จะขาดผึง และหากหย่อนเกินไป ประชุมนั้นก็อาจจะขาดสาระอันควรจะพึงได้
...
มันยากมากที่เราจะหาความลงตัวระหว่างความผ่อนคลายกำลังดี และความเคร่งเครียดกำลังเหมาะได้...เฉกเช่นกับการที่จะห่วงใยคนรอบข้าง โดยไม่ลืมที่จะห่วงใยตัวเอง
ผ่านชีวิตมาเกือบจะเลยหลักสี่ในอีกไม่นานนี้...ผมพบว่า การจะเป็นคนกอดโลกที่ดีได้...เราต้องไม่หวังว่าโลกจะกอดเราตอบ
ฟังดูเหมือนผมจะสร้างภาพว่าเป็นคนดี...ซึ่งแม้โลกจะไม่รับรู้ แต่ผมรู้เจตนาตัวเองดี และผมเองก็มีความสุขในทันทีที่กอด โดยไม่ได้คาดหวังเลยว่า โลกจะกอดผมตอบหรือไม่
แม้จะมีความโกรธบ้าง หรือมีความน้อยใจบ้าง มาแทรกในภวังคจิต...แต่ก็พยายามไม่เอามาเก็บไว้ให้นานจนเกินควร
ยิ่งแก่ตัวขึ้นยิ่งเข้าใจ...กอดโลกมันง่ายกว่าแบกโลกเยอะเลยครับ...และผมจะพยายามเตือนตัวเองอย่างนี้เรื่อยไป...จนกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้จะเป็นจริงทุกๆ วัน
มากอดโลกด้วยกันนะครับ ^^
Comments
Post a Comment