Skip to main content

Post#2-312: Action / Re-action

Post#2-312:
แม้ทุกคนจะทราบว่า ชีวิตเป็นของยืมมา เป็นความชั่วคราว แต่เราก็ไม่สามารถปลงได้ง่ายๆ

เป็นปกติของปุถุชนคนธรรมดาจริงๆ ที่เมื่อมีแรงกระทำก็จะมีแรงตอบสนองการกระทำ หรือที่เราเรียกว่า Action / Re-action หรือที่ทางพุทธศาสนาเรียกว่า "กรรม" นั่นเองล่ะครับ

จริงอยู่ที่เราไม่สามารถห้ามคนอื่นมาสร้าง action กับเราได้ แต่เราเลือก re-action ที่จะใช้ตอบสนองผู้ที่มาสร้าง action กับเราได้

...

ผมเองก็ใช่ว่าจะทำใจให้วางเฉยกับเรื่อง action / re-action ได้ทุกครั้ง และบ่อยครั้งต้องนับหนึ่งถึงสิบในใจ ก่อนที่จะปล่อย re-action อะไรออกมา

แม้จะยังไม่บรรลุโลกุตรธรรม แต่ผมก็มั่นใจว่ากฎแห่งกรรมเป็นสิ่งจริงแท้ และเชื่ออย่างยิ่งว่า การจะหยุดวงจรกรรมได้จึงมีแต่การชั่งใจให้มากๆ ก่อนที่จะมี re-action ใดๆ

หากยังทำใจให้กับชาวโลกไม่ได้ เราก็คงต้องเริ่มจากคนใกล้ตัวก่อน เริ่มจากคนในครอบครัว ขับไปที่กลุ่มเพื่อนๆ ขยายไปที่คนในที่ทำงาน แล้วก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น

...

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เมื่อผ่านไปแล้ว ก็เปรียบเสมือนมายา เกิดขึ้นแล้วก็แล้วกัน คงเหลือแต่ความทรงจำที่มีต่อสิ่งนั้นๆ หรือคนนั้นๆ ไว้

ฝรั่งก็มีข้อเตือนใจคล้ายๆ กันว่า "One day, you'll be just a memory for some people. Do your best to be a good one."

แปลว่า "เมื่อถึงวันหนึ่ง, คุณก็จะเป็นแค่ความทรงจำสำหรับใครบางคน จงพยายามให้ดีที่สุด ที่จะกลายเป็นความทรงจำที่ดี"

สังเกตดูนะครับ...ฝรั่งเองก็รู้ว่า ไม่ใช่เราจะทำได้ทุกครั้ง เพราะเราทำได้เพียงพยายามอย่างดีที่สุดเท่านั้น

เพราะ re-action ในทางที่เป็นกุศลเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก มันจึงเป็นสิ่งมีค่าและแสดงถึงระดับแห่งจิตใจและกำลังสติของเราได้เป็นอย่างดี

เรามาพยายามไปพร้อมๆ กันนะครับ

Cr: eyeopenerquotes.com

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...