Post#2-326:
ค่ำวานนี้ ผมมีโอกาสได้ร่วมแสดงความยินดีกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ในโอกาสที่เค้าขยายธุรกิจไปยังประเทศเมียนม่าร์
อย่างที่เคยเล่าให้ฟังหลายครั้งหลายหน ว่าประเทศนี้มีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์อยู่ค่อนข้างมาก และที่สำคัญมีโอกาสทางธุรกิจอยู่อย่างมหาศาล
แม้ว่าตอนนี้จะยังตามหลังประเทศของเรา แต่คลื่นแห่งพลวัตแห่งการลงทุนจากทั่วโลก กำลังถาโถมเข้าไปสู่ประเทศแห่งนี้
...
มานั่งพิจารณาทบทวนดู ผมพบว่าประเทศเมียนม่าร์กับประเทศญี่ปุ่น มีความคล้ายคลึงกันอย่างยิ่งในด้านความกลมกลืนระหว่างความเจริญทางวัตถุและความมีจริยวัตรแห่งจิตใจ
แม้ว่าจะมีกระแสความเจริญด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรมใดๆ ก็ตามเข้าไปสู่เมียนม่าร์และญี่ปุ่น แต่รากเหง้าแห่งจิตใจของคนในประเทศกลับไปเปลี่ยนแปลง
เรายังเห็นคนญี่ปุ่นใส่กิโมโนอยู่ท่ามกลางความศิวิไล เฉกเช่นกับการที่เราก็จะเห็นคนพม่านุ่งลองยีขึ้นรถยนต์ไปไหนต่อไหนได้อย่างเป็นปกติและสามัญ
สำหรับผมแล้ว มันเป็นความอัจจรรย์อย่างมาก ในการที่ชาติใดๆ จะรักษาวัฒนธรรมแห่งชาติตะวันออกให้คงอยู่ ท่ามกลางกระแสแห่งการเปิดรับวัฒนธรรมของโลกตะวันตก
...
การรักษาสภาวะแห่งภายในไม่ให้ผันแปรไปตามสิ่งเร้าภายนอก ก็คือแก่นแห่งแนวคิดที่สามารถตีความได้จากจริยวัตรอันดีของชาวเมียนม่าร์และชาวญี่ปุ่น
และเมื่อใดที่เราสร้างปราการปกป้องอาณาจักรแห่งจิตใจได้มั่นคง เมื่อนั้นกองทัพแห่งโลกวิสัยก็มีอาจรุกรานความสงบแห่งจิตใจได้โดยง่าย
เนื่องในโอกาสวันอาสาฬหบูชานี้ ผมขออารธนาบารมีแห่งพระธรรมแห่งองค์พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้โปรดอำนวยพรให้พุทธศาสนิกชนทุกท่านได้พานพบกับความสงบ มีศีล, สมาธิ และปัญญา ถึงพร้อม
ก่อนนอนคืนนี้ ขอให้ทุกท่านมีโอกาสได้ทบทวนความผิดชอบชั่วดีของการกระทำที่ผ่านมา และค้นพบทางสู่ธรรมได้ด้วยการพิจารณาใจตนอย่างถ่องแท้นะครับ
Comments
Post a Comment