Skip to main content

Post#2-325: เริ่มต้นด้วย Passion

Post#2-325:
เที่ยงนี้ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับอดีตเจ้านายที่ไม่ได้เจอกันนานพอดู

ก็คุยเรื่องเก่าบ้าง คุยเรื่องแผนอนาคตบ้าง ได้แลกเปลี่ยนสารทุกข์สุกดิบบ้าง คุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนลืมเวลา

ผมชอบเวลาคุยกับคนกันเองแบบนี้ ชอบตรงที่เรื่องที่คุยมันจะกระโดดไปกระโดดมา เดี๋ยวเรื่องนั้น เดี๋ยวเรื่องโน้น เป็นการสนทนาแบบไร้ระเบียบ แต่เปี่ยมไปด้วยความสนุกและเปิดเผย

ตอนหนึ่งของการสนทนา เราก็คุยกันถึงเรื่องแผนงานใหม่ๆ อารมณ์ประมาณ Thinking Out Loud ว่างานนั้นทำแบบนี้ดีมั๊ย? แล้วงานนี้ทำแบบนี้ไปถูกทางมั๊ยหนอ?

...

จะว่าไปเราคงมีเพื่อนแท้แค่ไม่กี่คน ที่สามารถเล่าความคิด ปันความฝันให้เค้าฟังได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าเค้าจะมาดูถูกดูแคลน

ซึ่งนอกจากจะไม่ดูแคลนแล้ว เค้าก็ยังจะช่วยเกลาความคิด ให้ความเห็น และเป็นกำลังใจให้เราอีกด้วย...ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเรียกรวมๆ ว่า "มิตรภาพ"

เพื่อนแท้จึงมีไว้คอยช่วยเหลือกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง คอยตบไหล่ชื่นชม รวมไปถึงดุด่าและติติงยามที่เราทำอะไรไม่ถูกไม่ควร...ไม่ใช่เข้าข้างหรืออวยกันตะพึดตะพือ ไม่แยกแยะผิดถูก

...

สิ่งหนึ่งที่ผมเรียนรู้จากอดีตเจ้านายท่านนี้ (ซึ่งปัจจุบัน ท่านก็เอ็นดูนับผมเป็นเพื่อน) ก็คือเรื่อง Passion ในการทำงาน

พี่เค้าสอนผมด้วยการทำให้เห็นว่า ถ้าจะทำอะไรให้ดีสักอย่าง ถามตัวเองให้แน่ๆ ก่อน ว่ามี Passion ในสิ่งที่จะทำนั้น มากพอมั๊ย?

ถ้ามี Passion มากพอ ก็เรียกว่า เรามีปัจจัยสำคัญแห่งความสำเร็จมาไว้ในความครอบครองแล้ว ซึ่งผมเห็นด้วยกับพี่เค้ามากๆ ว่าหากทำอะไรด้วย Passion ที่เต็มเปี่ยมแล้วละก็...

จุดหมายที่ฝันกันไว้...ก็คงไม่เกินมือเรา (เพลงเก่าอีกแล้ว ^^)

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...