Post#2-323:
วันนี้ผมชวนภรรยาและลูกสาวมาทานข้าวเย็นด้วยกันนอกบ้าน เพราะสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมยุ่งอยู่กับการประชุมจนไม่มีเวลา
ผมชอบนั่งทานข้าวกับลูกสาวมากๆ เพราะเธอเป็นพวกช่างพูด ถามนั่นคุยนี่ไม่หยุดปาก เรียกว่าถอดแบบพ่อไปเลยก็ว่าได้
ว่ากันที่จริง ผมก็ใช้คำถามต่างๆ ที่ลูกถามนี่แหละครับ เป็นตัวประเมินว่า ระดับความคิดและวิธีมองโลกของเธอเป็นยังไง
...
พูดกันแบบไม่อาย ผมค่อนข้าง spoil ลูกอยู่ไม่น้อย ค่าที่เป็นลูกคนเดียว และเป็นสาวน้อยที่ผมหลงรักอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก
ก็ได้ภรรยาเป็นผู้กระตุกเตือน และคอยคุมไม่ให้พ่อและลูกเดินออกนอกทางจนมากเกินควร เรียกว่า ไม่เฉพาะครอบครัวของผม แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ลูกเติบโตมาอย่างดีงามได้ เพราะมีแม่คอยเคี่ยวเข็ญ...ก็คงจะไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริงแต่อย่างใด
ไม่ผิดหรอกครับที่เราจะรักลูกมาก แต่ความพอเหมาะพอควรที่จะสั่งสอนลูกนั้น เป็นเรื่องที่คนเป็นพ่อและแม่ไม่อาจที่จะละเลยได้...ไม่งั้นก็จะกลายเป็น "พ่อแม่รังแกฉัน" อย่างที่เราๆ ท่านๆ ก็รู้ๆ กันอยู่
...
อย่างวันนี้ ลูกสาวตัวน้อยของผมพยายามจะหยิบกระดาษทิชชู่ แต่เอื้อมไม่ถึง แล้วก็งุงิตามภาษาเด็กว่า "หนูหยิบไม่ถึง" ผมเกือบจะหยิบให้ลูกแล้ว แต่มีเสียงภรรยาผมแทรกขึ้นว่า
"อย่าพูดว่าหนูทำไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้ลองทำดูก่อน" แล้วลูกสาวผมก็ทำเองได้ โดยที่ไม่โดนผม spoil ไปซะก่อน
จริงสิ...ไม่ว่าเรื่องนั้นจะยากหรือง่าย ถ้ายังไม่ลองทำดูก่อน ทำไมถึงรีบพูดว่า "ทำไม่ได้"
...
กี่ครั้งในชีวิตที่เรายอมแพ้ก่อนจะได้ลงมือ? กี่หนในชีวิตที่เราคิดว่าเราทำไม่ได้ ทั้งที่ยังไม่เคยลอง? กี่คราวในชีวิต ที่เรามัวรอความช่วยเหลือ ทั้งที่ยังไม่ได้ลองพยายามดูเองก่อน?
ครั้งหน้าก่อนพูดว่า "ทำไม่ได้" อย่างน้อยก็ต้องควรทบทวนให้ดี...
จะเป็นผู้ชนะหรือผู้แพ้ บางทีก็วัดกันที่ตรงนี้นี่เองครับ
Comments
Post a Comment