Post#2-322:
ผมเชื่อว่าหลายๆ คนมีภาระต้องผ่อนบ้านและผ่อนรถ เช่นเดียวกับผมและคนส่วนใหญ่ของประเทศ
แม้เราจะไม่สามารถซื้อบ้านหรือรถด้วยเงินสดได้ ก็ไม่ได้หมายความว่า เราต้องรอเก็บเงินจนครบแล้วจึงจะไปซื้อ
เรื่องบางเรื่องหรือของบางอย่าง เราก็ไม่สามารถที่จะรอจนพร้อมมูลได้ เราจึงจำเป็นที่จะต้องลงมือทำไปก่อนหรือของบางอย่างจึงต้องใช้วิธีผ่อนเอาอย่างที่ว่า
...
แล้วอยู่ดีๆ ผมเอาเรื่องผ่อนบ้านผ่อนรถมาเล่าทำไม?
ก็เพราะเช้านี้ มีรุ่นน้องคนหนึ่ง (สมมติว่าชื่อ K นะครับ) โทรมาปรึกษาเรื่องจะออกไปทำกิจการของตัวเอง มีแผนชัดเจน แต่กลับขาดความกล้า และซ่อนต้วเองอยู่หลังคำว่า "ไม่พร้อม"
ตอนหนึ่งของการสนทนา น้อง K บอกว่า "ผมคิดว่าผมยังไม่พร้อมดีครับพี่ อยากจะรอให้มีเงินทุนเพิ่มอีกหน่อย แล้วก็รอให้อายุมากกว่านี้อีกนิด"
ผมไม่ได้บอกน้อง K ว่าเค้าคิดถูกหรือผิด แต่ให้ไปคิดต่อเอาเองว่า...
ข้อหนึ่ง...แม้เรื่องเงินทุนจะสำคัญ แต่เริ่มต้นธุรกิจต้องใช้เงินเยอะขนาดนั้นจริงหรือ? เริ่มจากเล็กๆ ก่อนดีมั๊ย ไม่จำเป็นต้องทำให้ธุรกิจใหญ่จนเกินกำลังของตัวเอง
ข้อสอง...ความสำเร็จของธุรกิจ ไม่ได้ขึ้นกับอายุตัวเลย หากแต่ขึ้นอยู่กับอายุของความชำนาญและความเข้าใจของสิ่งที่ทำต่างหาก ว่าแล้วผมก็ยกตัวอย่างของมหาเศรษฐีอายุน้อยๆ ให้ฟัง
...
ผมไม่ได้บอกใครก็ตาม ว่าให้บุ่มบ่ามหรือหุนหันพลันแล่น ผมแค่อยากบอกว่า หากมั่นใจในแผนงาน คิดครบถ้วนดีแล้ว ประกอบกับอายุยังไม่มาก ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวกับการลงมือทำ
เริ่มแรกก็ไม่จำเป็นต้องลาออกจากงานประจำในทันที ทำคู่กันไปก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่า จะต้องไม่ทำอะไรเป็นการเบียดเบียนให้งานประจำเสียหาย
เมื่อธุรกิจของตัวเองมั่นคงระดับหนึ่งแล้ว ค่อยลาออกก็ยังไม่สายครับ...ส่วนถ้าล้มเหลว ก็กลับไปนับหนึ่งใหม่สิครับ ไม่เห็นว่าจะเป็นการเสียหน้าอะไรตรงไหนเลย
...
หากเอาแต่รอ ไอเดียทางธุรกิจของเราก็อาจจะมีคนอื่นคิดได้เหมือนกัน ยิ่งถ้าไม่ใช่ไอเดียธุรกิจพลิกโลกแล้วล่ะก็ บางที การรอหรือปล่อยช้าไปวันนึงก็อาจจะช้าไปแล้วก็ได้ ดังนั้น บางเรื่องบางอย่าง เราจึงไม่อาจรอจนพร้อม 100% แล้วค่อยเริ่ม
ถ้าพิจารณาถ่องแท้แล้วว่ามีเงินพอดาวน์และมีปัญหาผ่อนต่อได้ ก็ต้องลุยเลย ไม่งั้นบ้านที่อยากได้ก็อาจจะโดนขายไปเรียบร้อย
ถ้าพิจารณาดีแล้ว ว่าไอเดียเราดีจริง สร้างกำไรได้จริง หากพอมีทุนเริ่มต้น มองเห็นทางไปต่อ...ก็ไม่รู้จะรออะไรจริงๆ...หรือจะรอให้มีคนอื่นหยิบไปทำ แล้วเราก็มัวมานั่งเสียดายทีหลัง?
ไม่มีการเตรียมความพร้อมใดที่จะสมบูรณ์แบบ ได้ 100% หรอกนะครับ
ถ้าทุกอย่างที่วางแผนไว้ไม่ได้เกิดจากการหลอกตัวเองแล้วล่ะก็...เชื่อมั่นในตัวเองเถอะครับ ความฝันกับความจริงมันห่างกันแค่การลงมือทำเท่านั้นเอง
ขอให้น้อง K และอีกหลายๆ คนที่ยังกลัวๆ กล้าๆ โชคดีครับ ^^
Comments
Post a Comment