Post#2-324:
จำได้ว่าผมเคยเล่าเรื่องเกี่ยวกับภาวะที่เราจำต้องก้มหัวให้กับความไม่ถูกต้องอยู่ครั้งหนึ่ง (Post#150)
บางครั้งชีวิตก็เป็นแบบนี้ แบบที่เราเลือกไม่ได้ที่อาจจะต้องเจอความไม่ถูกต้อง, คนไม่ถูกต้อง หรือสิ่งไม่ถูกต้อง ที่เข้ามาทำให้เรารู้สึกยากลำบากในหัวใจ
ป่วยการจะหลบหรือจะหนี เพราะมันแทบจะเป็นเรื่องที่เราต้องเจอแน่นอน ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง ไม่บนท้องถนน ก็ที่บ้าน ไม่ก็ที่ทำงาน
...
เรื่องราวความไม่ถูกต้องต่างๆ ที่เราพบเจอ ต่างมีเหตุและปัจจัยต่างกัน บางเรื่องเราป้องกันหรือหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นได้ บางเรื่องรู้ทั้งรู้ว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เราอาจจำต้องยอมให้มันเป็นไป...ก็มี
บางครั้งความถูกต้องหรือไม่ถูกต้องก็เป็นเรื่องของมุมมองและการตีความ บางเรื่องเรารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่อาจฟันธงได้แบบชัดๆ ว่ามันเป็นเรื่องที่ "ผิด"
เรื่อง "ไม่ถูกต้อง" กับ เรื่อง "ผิด" แท้จริงแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับว่ามองจากมุมของใคร หรือใครเป็นผู้ตีความอย่างที่ว่า
หากเป็นเรื่องผิด ก็แปลว่า ทำผิดกฎที่วางไว้อย่างชัดเจน แต่หากเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แปลว่า ทำอะไรบางอย่างแบบเลี่ยงกฎ แบบว่าไม่ได้ผิดกฎนะ แต่ก็คาบลูกคาบดอก
อารมณ์ประมาณว่า เจอช่องว่างหรือช่องโหว่ของกฎที่วางไว้ แล้วก็หาทางเจาะตรงนั้นนั่นแหละครับ...ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง หรือเรียกว่าเลี่ยงบาลีนั่นเอง
...
บางคนมีความสามารถพิเศษในการหาช่องว่างเหล่านี้มาใช้เลี่ยงบาลี และมักจะสร้างความปั่นป่วนให้กับองค์กรและสังคมนั้นๆ อยู่ไม่น้อย
พวกนี้มักอยู่ในเงามืด และชักใยให้พวกรู้ไม่เท่าทันออกหน้าแทน...บางพวกก็ไม่ได้คิดร้ายอะไรมากมาย แค่อาศัยช่องว่างหรือช่องโหว่ในการหาประโยชน์เข้าตัว ไม่ก็ใช่หลบเลี่ยงงาน
หน้าที่ของพวกเราก็คือ ต้องคอยสังเกตให้ดี อย่าตกเป็นเหยื่อและที่สำคัญ อย่าหลงไปเป็นพวกของเค้าซะล่ะครับ
การเห็นคนอื่นทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ก็ไม่ได้แปลว่าเราก็สามารถทำแบบนั้นได้เหมือนกัน...เพราะถ้าใครคิดแบบนั้น ผมก็ต้องขอเตือนว่า นี่มันเข้าข่ายตรรกะของพวกคนขี้แพ้ชัดๆ
ดังนั้น เวลาเห็นคนอื่นลงไปคลุกโคลน เราก็ไม่จำเป็นต้องคลุกโคลนไปกับเค้าด้วย...จริงมั๊ยครับ?
Comments
Post a Comment