Post#262:
หากเราเป็นพ่อแม่ เรื่องที่น่าจะทำให้เราดีใจมากที่สุด ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ลูกมีความก้าวหน้าในเรื่องอะไรซักเรื่อง
และถ้าหากเราอยู่ในบทของเจ้านาย ล่ะครับ เรื่องที่เราควรจะดีใจมากที่สุด เรื่องหนึ่ง ควรเป็นเรื่องอะไรครับ?
แน่นอนว่าย่อมเป็นเรื่องความก้า วหน้าของลูกน้อง
ใครก็ตามที่ไม่ยินดีที่เห็นลูกน้องก้าวหน้า มีพัฒนาการที่ดีขึ้น เติบโตขึ้นในเรื่องวิธีคิดและวิ ธีทำงาน ใครคนนั้นอาจเรียกตัวเองได้แค่เป็น "หัวหน้างาน" แต่ไม่ใช่ "เจ้านาย"
การจะเป็น "นาย" คนได้ ไม่ได้เกิดจากการที่บริษัทกำหนด ให้เป็น แต่เกิดจากการประพฤติปฏิบัติตัว ให้เป็นทั้งแบบอย่าง, เป็นที่พึ่ง, เป็นที่ปรึกษา ตลอดจนเป็นผู้ช่วยเหลือ
ผู้เป็น "นาย" ใช้ทั้ง "พระเดช" และ "พระคุณ" ในการดูแลลูกน้อง แต่ "หัวหน้างาน" มักหลงอยู่กับ "พระเดช" แต่ไม่ให้ความสำคัญกับ "พระคุณ"
"หัวหน้างาน" จึงมักเป็นความสัมพันธ์ที่ผิวเผ ิน ขาด "บารมี" และ "เลื่อมใส" ในใจลูกน้อง
ยิ่งถ้าผู้เป็นนายขาด "มุทิตาจิต" รับรองได้ว่า ใครที่เป็นลูกน้องคงจะเหนื่อยน่ าดู และคงจะเหนื่อยทั้งกายและใจแน่ๆ เพราะนายแบบนี้ ไม่เพียงไม่ยินดีที่ลูกน้องได้ด ี กลับกลัวว่าตัวเองจะสูญเสียตำแห น่งและความสำคัญ
นายแบบนี้ รังแต่จะเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้ลูกน้อง
ใครที่วันนี้ยังเป็นลูกน้อง ต้องวิเคราะห์หัวหน้าตัวเองด้วย ถ้าเค้าไม่เหมาะจะเป็นนายเรา ก็หานายใหม่ อย่ามัวแต่บ่นว่าหรือนินทาเค้า เพราะนั่นไม่ใช่ความสร้างสรรค์
ผมไม่ได้แนะนำให้ทำตัวเป็น "กบเลือกนาย" แต่อยากให้เข้าใจว่า "นกดีย่อมเลือกกิ่งไม้เกาะ" นะครับ
แน่นอนว่า วันหนึ่งเราก็จะเติบโตและก้าวหน ้าขึ้นในตำแหน่งหน้าที่การงาน ดังนั้น วันนี้ควรต้องเรียนรู้ อะไรที่นายเราทำแล้วดี ควรยึดเป็นแบบอย่าง อะไรไม่ดีก็เรียนรู้ แต่ไม่ต้องทำตาม
เราเลือกได้ครับ ว่าอยากเป็น "นาย" หรือ "หัวหน้างาน" และเราเลือกได้ครับ ว่าอยากเป็น "ลูกน้อง" หรือ "ลูกจ๊อก"
จบแบบขมนิดๆ แต่อยากให้กำลังใจผู้เป็น "ลูกน้อง" พร้อมๆ กับเสนอข้อคิดแด่ผู้เป็น "เจ้านาย" ทั้งหลายครับ
หากเราเป็นพ่อแม่ เรื่องที่น่าจะทำให้เราดีใจมากที่สุด ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ลูกมีความก้าวหน้าในเรื่องอะไรซักเรื่อง
และถ้าหากเราอยู่ในบทของเจ้านาย
แน่นอนว่าย่อมเป็นเรื่องความก้า
ใครก็ตามที่ไม่ยินดีที่เห็นลูกน้องก้าวหน้า มีพัฒนาการที่ดีขึ้น เติบโตขึ้นในเรื่องวิธีคิดและวิ
การจะเป็น "นาย" คนได้ ไม่ได้เกิดจากการที่บริษัทกำหนด
ผู้เป็น "นาย" ใช้ทั้ง "พระเดช" และ "พระคุณ" ในการดูแลลูกน้อง แต่ "หัวหน้างาน" มักหลงอยู่กับ "พระเดช" แต่ไม่ให้ความสำคัญกับ "พระคุณ"
"หัวหน้างาน" จึงมักเป็นความสัมพันธ์ที่ผิวเผ
ยิ่งถ้าผู้เป็นนายขาด "มุทิตาจิต" รับรองได้ว่า ใครที่เป็นลูกน้องคงจะเหนื่อยน่
นายแบบนี้ รังแต่จะเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้ลูกน้อง
ใครที่วันนี้ยังเป็นลูกน้อง ต้องวิเคราะห์หัวหน้าตัวเองด้วย
ผมไม่ได้แนะนำให้ทำตัวเป็น "กบเลือกนาย" แต่อยากให้เข้าใจว่า "นกดีย่อมเลือกกิ่งไม้เกาะ" นะครับ
แน่นอนว่า วันหนึ่งเราก็จะเติบโตและก้าวหน
เราเลือกได้ครับ ว่าอยากเป็น "นาย" หรือ "หัวหน้างาน" และเราเลือกได้ครับ ว่าอยากเป็น "ลูกน้อง" หรือ "ลูกจ๊อก"
จบแบบขมนิดๆ แต่อยากให้กำลังใจผู้เป็น "ลูกน้อง" พร้อมๆ กับเสนอข้อคิดแด่ผู้เป็น "เจ้านาย" ทั้งหลายครับ
Comments
Post a Comment