Post#290:
หลายต่อหลายครั้งที่คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่าง idea กับ innovation ผมเองก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น
กว่าจะได้สินค้าใหม่มาหนึ่งชิ้นออกสู่ตลาด ต้องผ่านกระบวนการทางความคิดมากมาย ผ่านกระบวนการทดลองอีกนับครั้งไม่ถ้วน ผ่านการเก็บรวบรวมข้อมูล วิจัยตลาด รวมไปถึงการทดสอบความเป็นไปได้หลายๆ อย่าง เรียกว่า กินเวลาอาจจะเกือบปีหรือบางสินค้าอาจจะเป็นปี กว่าจะเข็นสินค้าออกมาได้
แล้ว idea กับ innovation มันต่างกันตรงไหนล่ะ? ก็ลองคิดกันหน่อยดีมั๊ยครับ ให้เวลา 3 นาทีละกันครับ ^^
...
เราอาจคิด idea สินค้าได้มากมายนับร้อยๆ idea แต่จะสามารถทำตลาดได้หรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่อง เรียกว่า ต้องผ่านกระบวนการเยอะแยะอย่างที่ผมเล่าข้างต้นนั่นแหละครับ และนี่แหละคือจุดต่างระหว่างการเป็นแค่ idea หรือจะกลายเป็น innovation ตัดสินกันตรงความสามารถในการทำตลาดได้หรือไม่นั่นเอง
หาก idea นั้น ไม่สามารถสร้างความเป็นได้ทางธุรกิจ idea นั้น ก็จะไม่ถูกเรียกว่าเป็น innovation ซึ่งไม่ได้หมายความว่า concept ของ idea นั้นๆ ไม่ดีนะครับ แต่อาจจะมีปัจจัยอื่นมาชะลอให้ไม่กลายเป็น innovation เช่น จังหวะเวลาในการขาย เป็นต้น
ลองคิดภาพย้อนหลังไปซัก 40 ปีที่แล้ว ใครคิดจะขายชุด bikini ในเมืองไทย มีหวังโดนด่ากระเจิง แต่สมัยนี้กลับใส่ได้เป็นปกติ เห็นมั๊ยครับ ว่าถ้าช่วงเวลาต่างกัน idea อาจจะกลายเป็น innovation ได้
แต่ใช่ว่ามี concept ที่ดีแล้ว จะประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะปัจจัยที่จะทำให้รุ่งหรือไม่ เราไม่อาจมองข้าม Market Execution (หรือการทำตลาด) ไปได้
สรุปง่ายๆ ว่า idea ดี แต่ทำตลาดไม่เป็นก็เกิดได้ยาก สินค้าดีเพียงใด แต่ไม่สามารถสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจได้ ก็จบ เข้าทำนองเริ่มต้นดี แต่ตายตอนจบ ประมาณนั้น
บางครั้ง innovation ก็มีอายุสั้นอย่างไม่น่าเชื่อ ที่เราเรียกกันว่า Product Lifecycle นั่นแหละครับ ซึ่งมีปัจจัยทั้งภายในและภายนอกเยอะแยะมากมาย ที่อาจทำให้ innovation ที่เราเหน็ดเหนื่อยผลักดัน กลายเป็นสูญเปล่า เมื่อออกสู่ตลาดได้แค่แป๊บเดียว
ให้เห็นภาพชัดๆ ก็คือ หนังไทยที่ฉายในบ้านเรานั่นไงครับ ตัวอย่างที่ดีมากๆ
กว่าจะได้เป็นหนังมาฉาย เหนื่อยยากสารพัด ตั้งแต่คิดบท คัดตัวแสดง หานายทุน วางแผนโปรโมท ฯลฯ แต่เมื่อเข้าฉาย อาจจะรุ่งหรือร่วงได้จากหลายเหตุปัจจัยเหลือเกิน เข้าชนหนังฟอร์มยักษ์มั่งล่ะ ขาดงบโปรโมทมั่งล่ะ โดนซูมขายมั่งล่ะ และ ฯลฯ หนังไทยบางเรื่องอยู่ไม่ครบสัปดาห์ก็มีครับ -"-
แต่ยังไงก็ตาม หน้าที่ของผู้คิดค้น innovation ใหม่ๆ มีแต่ต้องทำให้ดีที่สุดในทุกๆ ปัจจัยที่ควบคุมได้ และวางแผนลดความเสี่ยงในปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ให้เหลือน้อยที่สุดครับ ทำให้เต็มที่และดีที่สุด ที่เหลือก็ต้องว่ากันไป แก้กันไปครับ
Comments
Post a Comment