Skip to main content

Post#287: คนเราตีค่าความสำเร็จไว้ไม่เท่ากัน

Post#287:
ต้องยอมรับว่าช่วงนี้ไปไหนใครๆ ก็ชวนคุยเรื่องบอลโลก

ผมเองก็มีทีมในดวงใจที่เชียร์ออกหน้าออกตา ซึ่งก็คืออังกฤษ และได้โบกมือลาบอลโลกไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่อิตาลี ทีมรักอีกทีมของผม พ่ายคอสตาริกา ไปแบบพลิกโผ

ภาพที่เห็น คือทั้งนักเตะและกองเชียร์ของทีมคอสตาริกาดีใจเสมือนเป็นแชมป์โลก ทั้งๆ ที่มันคือการชนะ 2 นัดติดกันเท่านั้น ถ้าเป็นการชนะติดกันของทีมบิ๊กเนม เช่นฝรั่งเศส ทีมตราไก่ก็คงจะยินดีเช่นกัน แต่คงไม่ได้ดีใจขนาดทีมคอสตาริกา

ถามว่า ทำไม?

ผมตอบว่า เป็นเพราะเป้าหมายแห่งความสำเร็จของทั้ง 2 ทีม นั้น ไม่เท่ากัน

สำหรับทีมบิ๊กเนมทั้งหลาย แน่นอนว่าเป้าหมายอยู่ที่การเป็นแชมป์บอลโลก แต่สำหรับทีมเล็กๆ เป้าหมายอยู่แค่การผ่านเข้ารอบ 2 และบางทีมขอแค่ชนะซักนัดนึงก็พอแล้ว นี่ยังไม่นับบางประเทศที่ตั้งเป้าหมายจะไปบอลโลกตั้งแต่ผมจำความได้ จนบัดนี้ยังไม่มีวี่แวว ไปได้แค่ทีมหญิง (เอ๊ะ คุ้นๆ ว่าประเทศอะไรนะ :p)

ด้วยเพราะเป้าหมายของแต่ละทีมไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกับคนเราที่ตั้งเป้าไว้ไม่เหมือนกัน ดังนั้น ความสำเร็จของใครคนหนึ่ง อาจไม่ใช่ความสำเร็จของใครอีกคน ซึ่งเราไม่อาจดูแคลนความสำเร็จใดๆ ที่เราดูว่ามันเล็กซะเหลือเกินสำหรับเรา เพราะมันอาจจะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เหลือเกินสำหรับใครอีกคนก็ได้

ดูอย่างเด็กทารกน้อยที่พึ่งจะ "ตั้งไข่" ยืนได้เป็นครั้งแรก ใครที่เคยมีประสบการณ์ที่มีเด็กทารกน้อยๆ อยู่ในบ้าน จะรู้ดี ว่าในครั้งนั้นทุกคนในบ้าน ตื่นเต้นดีใจกันขนาดไหน คนที่ไม่เคยผ่านประสบการณ์นี้คงไม่เข้าใจ อาจจะงงๆ พร้อมกับนึกว่า "อะไร (ฟะ) แค่ยืนได้แค่นี้ บ้ากันทั้งบ้าน" ^^

เราคงเคยได้ข่าวเด็กกระโดดตึกฆ่าตัวตายเพราะสอบเอนทรานซ์ไม่ติด และมักจะเป็นเด็กที่เรียนเก่งมากๆ ด้วย ทำให้เราปลงอนิจจังว่า "อะไรว้า แค่เอนฯ ไม่ติด เมิงถึงกะฆ่าตัวตายเลยเหรอ ทีกรูสอบตกแล้วตกอีก กรูยังหัวเราะได้เลย" เรื่องนี้ก็สะท้อนให้เห็นชัด ว่าเป้าหมายหรือความสำเร็จของคนเรามันไม่เท่ากันจริงๆ

หากเราตั้งเป้าหมายไว้เล็ก ความสำเร็จที่ได้ก็จะเล็ก ถ้าเราฝันไว้ยิ่งใหญ่ และทำให้มันเป็นจริงได้ เราจะภาคภูมิใจและมีความสุขเป็นเท่าทวี และอย่างที่ผมเคยเล่าไว้ ไม่ว่าเป้าหมายจะเล็กหรือใหญ่ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่สำคัญตรงที่เรามีเป้าหมายรึเปล่าต่างหาก

อย่าดูแคลนความสำเร็จก้าวเล็กๆ เพราะก้าวเล็กๆ นั้น อาจสร้างแรงบันดาลใจอันล้ำค่า ผลักดันให้เรามั่นใจและกล้าที่จะก้าวต่อไป จากก้าวเล็กๆ ก็จะกลายเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ และนำไปสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในอนาคต

ก้าวเล็กๆ บางก้าวอาจจะไม่เล็กอย่างที่เราเข้าใจ เพราะมันอาจหมายถึงก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติก็ได้

ดูอย่างก้าวเล็กๆ บนดวงจันทร์ ของนีล อาร์มสตรอง สิครับ ^^

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...