Skip to main content

Post#273: ความทรงจำ

Post#273:
วันเสาร์สบายๆ แบบนี้ ขอเริ่มต้นการสนทนาด้วยคำถามชวนคิดครับ

คนเราควรสะสมอะไรในชีวิต? ให้เวลาคิดสบายๆ 5 นาทีครับ ^^

...

อย่ากังวลมากนักกับคำตอบครับ เพราะไม่มีคำตอบไหนถูกหรือผิด ขึ้นอยู่กับความรู้สึกและมุมมองต่อชีวิตของแต่ละคน

บ้างก็ตอบว่า "เงินทอง" บางคนก็ตอบว่า "ความดี" บ้างก็ตอบว่า "เพื่อน" ก็ว่ากันไป

มีคำตอบหนึ่งที่ผมชอบมาก เลยขอมาแชร์ให้ทุกท่าน เค้าบอกไว้ว่า "Collect memories, not things" (จงสะสมความทรงจำ ไม่ใช่สิ่งของ)

สิ่งของต่างๆ เมื่อเราครอบครองไว้ ถ้าไม่ได้ได้มาด้วยวิธีการที่ต้องเบียดเบียนคนอื่น ก็คงไม่มีใครว่าอะไร แต่ถ้ายึดติดถือมั่นกับการไคว่คว้ามาครอบครอง แบบที่ฝรั่งเรียกว่า Materialism หรือวัตถุนิยม ก็อาจจะทำให้เป็นทุกข์ และโดยมาก การครอบครองวัตถุใดๆ จะทำให้เรามีความสุข ณ ขณะที่ได้มาครั้งแรก จากนั้นความสุขและความยินดีนั้น จะเสื่อมถอยลงตามวันเวลาที่ผ่านไป

พูดแบบนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่า ตัวผมเองตัดขาดกิเลสของความอยากได้ อยากมี ได้แล้วหรอกนะครับ ผมยังคงมีอยู่ เพียงแต่รู้เท่าทันความอยากของตัวเองมากขึ้น ได้มาครอบครองก็ยินดี หากแต่แม้ต้องรอคอยเวลาที่จะได้ครอบครองก็เข้าใจและไม่ทุรนทุราย

ส่วนความทรงจำนั้น ไม่ว่าจะดีหรือเลว ล้วนทรงคุณค่ามากขึ้นเมื่อผ่านวันเวลา ความทรงจำที่ดี ทำให้เรายิ้มได้ทุกครั้งที่เรานึกถึง ในขณะที่ความทรงจำอันเลวร้าย ทำให้เราภูมิใจที่ผ่านมันมาได้ กระนั้นแล้ว "ความทรงจำ" จะไม่น่าสะสมได้ยังไง?

ถ้าไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุหรืออาการเจ็บป่วย ความทรงจำจะจากเราไปได้ยากมาก แต่ที่น่าแปลกก็คือ ความทรงจำบางเรื่องที่เราอยากจำ เรากลับลืม แต่บางเรื่องที่เราอยากลืม เรากลับจำ (เหมือนเพลงสมัยเก่าเค้าร้องไว้ล่ะครับ) คิดไปแล้วก็เป็นหนึ่งในเรื่องเล่นตลกของชีวิตอีกแบบหนึ่งครับ

สำหรับผม "ความทรงจำ" เป็นกึ่งกลางระหว่าง "ประสบการณ์" และ "ความฝังใจ" ถ้าผ่านเรื่องราวที่มีความเข้มข้นมากพอ ประสบการณ์นี้ จะถูกบันทึกไว้ในความทรงจำ และหากเป็นประสบการณ์ที่สั่นคลอนความรู้สึกที่รุนแรง ย่อมเปลี่ยนความทรงจำนั้นให้เป็นความฝังใจในที่สุด แน่นอนว่า ทั้งเรื่องสุขและเรื่องเศร้า เช่น ความรักครั้งแรกที่เราไม่อาจลืมเลือน หรือความฝังใจจากอุบัติเหตุใหญ่ๆ ที่เราเจอมาในอดีต

แต่หากต้องการให้ชีวิตมุ่งไปข้างหน้าอย่างกล้าแกร่ง ก็อย่ากลัวที่จะสะสมความทรงจำที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำอันแสนสุขหรือโศกเศร้า ล้วนมีส่วนบ่มเพาะให้เราเป็น "เรา" ในทุกวันนี้

หากปราศจากซึ่ง "ความทรงจำ" อัตลักษณ์แห่งตัวตนจะสูญสลายไปครับ

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...