Post#275:
เคยมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งสอนผมไว้ว่า "มิตรแท้ หาได้ยามที่เราลำบาก"
เมื่อครั้งที่ได้ฟังผมออกจะเห็นด้วยอยู่ไม่น้อย และเมื่อผ่านวันเวลามายาวนาน ผมก็ได้แต่ยอมรับกับตัวเอง ว่าคำสอนนี้มีส่วน "ถูก" มากกว่า "ผิด"
ที่ว่า "ถูก" มากกว่า "ผิด" นั้น ผมไม่ได้มีเจตนาจะก้าวล่วงคำสอนของท่านหรอกครับ เพียงแต่ผมคิดว่า ในทุกๆ คำสอน มิอาจนำไปประยุกต์ใช้กับเหตุการณ์, กาละ และเทศะใดๆ ได้แบบ 100%
เช่นเดียวกับคำสอนข้างต้น
ในยามที่เราลำบาก หันหน้าไปทางไหนก็ดูจะมืดมิด และในความมืดมิดนั้น หากมีใครยื่นมือมาช่วยเหลือ เราย่อมสมควรระลึกถึงความช่วยเหลือนั้น หากแต่คนที่มิได้ยื่นมือมาช่วย เราสมควรสรุปว่า พวกเค้าแล้งน้ำใจ กระนั้นหรือ?
ผมเกรงว่า อาจมิใช่
หากความช่วยเหลือที่เราต้องการ เป็นสิ่งที่เกินกว่าความสามารถของเค้า เค้าย่อมจนใจที่จะช่วย แม้เค้าจะอยากเอ่ยปากถามไถ่ แต่เค้าก็อาจจนใจว่าไม่ควรเปิดประเด็น
ฉะนั้น ก่อนที่จะด่วนสรุปว่า มิตรรอบข้างที่มิได้ช่วยเหลือยามเราตกยาก ล้วนมิใช่มิตรแท้ ก็น่าที่ควรจะวิเคราะห์ถึงเหตุปัจจัยของเค้าก่อน จึงจะควรครับ
ลองหันมามองตัวเราบ้าง เมื่อได้ข่าวว่าเพื่อนเราตกทุกข์ ก็ล้วนมีเรื่องที่เราช่วยได้และช่วยไม่ได้เช่นกัน หากแม้เป็นเรื่องที่เมื่อเรายื่นมือไปช่วยแล้วเราเดือดร้อน ย่อมต้องคิดให้ดี เพราะหากเพื่อนเรารู้ ว่าเราช่วยเค้าแล้วเราเดือดร้อน เค้าจะสบายใจหรือไม่
แต่หากเค้ารู้ทั้งรู้ ว่าเราไม่อยู่ในสถานะที่ช่วยเหลือเค้าได้ แล้วเค้ายังกล่าวโทษหรือมึนตึงต่อเรา ควรหรือที่เราจะนับเค้าเป็น "มิตรแท้"
ช่วยเหลือผู้อื่นหรือเห็นแก่ผู้อื่นได้ หากมิได้เป็นการผลักตนเองเข้าสู่ปัญหาหนัก จึงจะนับว่า เราช่วยให้ผู้อื่นพ้นพบสุขด้วยความสุขของเราครับ
Comments
Post a Comment