Post#14: ขงจื๊อ
มีเพื่อนอาวุโสท่านหนึ่งแนะนำให้อ่านหนังสือ "ขงจื๊อ คุณครูผู้เป็นที่รัก" (โดย สำนักพิมพ์บุ๊คสไมล์ น่าจะมีขายในร้าน 7-Eleven)
อ่านแล้วแทบวางไม่ลง และได้แต่ยอมรับว่าเป็นหนังสือที่ดีมากเล่มหนึ่งในชีวิต
ผมจะไม่ขอเล่าถึงเนื้อหา ท่านที่สนใจต้องลองหาอ่านดู รับรองว่าจะไม่ผิดหวัง ไม่น่าเบื่ออย่างหนังสืออัตชีวประวัติทั่วๆ ไป
มีตอนหนึ่งที่ผมชอบมาก
โดยเนื้อหาสรุปประมาณว่า ไม่ใช่มีความรู้ก็เพียงพอ ต้องรู้จักประยุกต์ใช้ให้เป็น ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีประโยชน์
สมัยเด็กๆ เราเรียนนับเลข นับหนึ่ง สอง สาม เรื่อยไปจนกระทั่งนับถึงหนึ่งร้อย ถามว่า มีครูโรงเรียนไหนสอนเรานับทีละตัวๆ ไปจนกระทั่งหนึ่งพันบ้าง?
หรือกระทั่งเราเรียนบวก ลบ คูณ หาร ไม่มีทางที่ครูจะสอนเราทำโจทย์ทุกข้อให้เราจำทั้งหมด ครูจะสอนแค่ว่า เมื่อบวกต้องเพิ่มขึ้น เมื่อลบต้องลดลง ฯลฯ
นั่นละครับ ที่เรียกว่า สอนหลักการและวิธีคิด เมื่อได้หลักการและวิธีคิดแล้ว เมื่อใดที่มีโจทย์คณิตศาสตร์มาให้แก้ (ถ้ายังอยู่บนพื้นฐานและหลักการเดิม) ย่อมไม่ยากที่เราจะแก้โจทย์ได้ เช่นให้นับหนึ่งถึงหนึ่งหมื่น เราก็นับได้ (ไม่ต้องลองนะครับ) หรือถามเราว่า หนึ่งล้านบวกห้าแสนได้เท่าไหร่ เราก็ตอบได้
แต่ชีวิตเราไม่ใช่โจทย์คณิตศาสตร์ ดังนั้น คำถามในงานหรือคำถามที่ทดสอบหรือท้าทายการใช้ชีวิต ไม่อาจตอบออกมาเป็นคำตอบตายตัวเหมือนคำตอบของโจทย์ทางคณิตศาสตร์ได้
คำถามเดียวกัน เมื่อถามแต่ละคน ย่อมได้คำตอบที่แตกต่าง หรือแม้กระทั่งถามคำถามเดิมกับคนเดียวกัน อาจได้คำตอบไม่เหมือนเดิม หากไม่ใช่ช่วงเวลาเดิม
ปัจจัยหลายอย่างทำให้คำตอบเปลี่ยนแปลงไป
หนังสือที่ว่า มีแนวทางคล้ายๆ แบบนี้ คือสอนเราให้มองหลายด้าน วิเคราะห์แยกแยะจากหลายมุม รู้จักประยุกต์ ไม่ใช่ท่องจำ
เพราะชีวิตไม่ใช่โจทย์คณิตศาสตร์ เราจึงจำเป็นต้องใช้ "ความรู้" มา "ประยุกต์" ในชีวิต เพื่อตอบ "ลิขิตฟ้า"
มีเพื่อนอาวุโสท่านหนึ่งแนะนำให้อ่านหนังสือ "ขงจื๊อ คุณครูผู้เป็นที่รัก" (โดย สำนักพิมพ์บุ๊คสไมล์ น่าจะมีขายในร้าน 7-Eleven)
อ่านแล้วแทบวางไม่ลง และได้แต่ยอมรับว่าเป็นหนังสือที่ดีมากเล่มหนึ่งในชีวิต
ผมจะไม่ขอเล่าถึงเนื้อหา ท่านที่สนใจต้องลองหาอ่านดู รับรองว่าจะไม่ผิดหวัง ไม่น่าเบื่ออย่างหนังสืออัตชีวประวัติทั่วๆ ไป
มีตอนหนึ่งที่ผมชอบมาก
โดยเนื้อหาสรุปประมาณว่า ไม่ใช่มีความรู้ก็เพียงพอ ต้องรู้จักประยุกต์ใช้ให้เป็น ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีประโยชน์
สมัยเด็กๆ เราเรียนนับเลข นับหนึ่ง สอง สาม เรื่อยไปจนกระทั่งนับถึงหนึ่งร้อย ถามว่า มีครูโรงเรียนไหนสอนเรานับทีละตัวๆ ไปจนกระทั่งหนึ่งพันบ้าง?
หรือกระทั่งเราเรียนบวก ลบ คูณ หาร ไม่มีทางที่ครูจะสอนเราทำโจทย์ทุกข้อให้เราจำทั้งหมด ครูจะสอนแค่ว่า เมื่อบวกต้องเพิ่มขึ้น เมื่อลบต้องลดลง ฯลฯ
นั่นละครับ ที่เรียกว่า สอนหลักการและวิธีคิด เมื่อได้หลักการและวิธีคิดแล้ว เมื่อใดที่มีโจทย์คณิตศาสตร์มาให้แก้ (ถ้ายังอยู่บนพื้นฐานและหลักการเดิม) ย่อมไม่ยากที่เราจะแก้โจทย์ได้ เช่นให้นับหนึ่งถึงหนึ่งหมื่น เราก็นับได้ (ไม่ต้องลองนะครับ) หรือถามเราว่า หนึ่งล้านบวกห้าแสนได้เท่าไหร่ เราก็ตอบได้
แต่ชีวิตเราไม่ใช่โจทย์คณิตศาสตร์ ดังนั้น คำถามในงานหรือคำถามที่ทดสอบหรือท้าทายการใช้ชีวิต ไม่อาจตอบออกมาเป็นคำตอบตายตัวเหมือนคำตอบของโจทย์ทางคณิตศาสตร์ได้
คำถามเดียวกัน เมื่อถามแต่ละคน ย่อมได้คำตอบที่แตกต่าง หรือแม้กระทั่งถามคำถามเดิมกับคนเดียวกัน อาจได้คำตอบไม่เหมือนเดิม หากไม่ใช่ช่วงเวลาเดิม
ปัจจัยหลายอย่างทำให้คำตอบเปลี่ยนแปลงไป
หนังสือที่ว่า มีแนวทางคล้ายๆ แบบนี้ คือสอนเราให้มองหลายด้าน วิเคราะห์แยกแยะจากหลายมุม รู้จักประยุกต์ ไม่ใช่ท่องจำ
เพราะชีวิตไม่ใช่โจทย์คณิตศาสตร์ เราจึงจำเป็นต้องใช้ "ความรู้" มา "ประยุกต์" ในชีวิต เพื่อตอบ "ลิขิตฟ้า"
Comments
Post a Comment