Post#4-113:
บ่ายวันนี้ ผมมีภารกิจในการสัมภาษณ์ Candidate ท่านหนึ่ง ที่ Management Board คาดหวังไว้สูงมาก
เอาจริงๆ แล้ว Job Interview เป็นหนึ่งในงานที่ผมชอบไม่น้อยเลย เพราะถือเป็นโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมุมมองกับคนใหม่ๆ
ที่สำคัญ ผมถือเป็นโอกาสได้ลับสมองประลองไหวพริบในการตั้งคำถามและตอบคำถามไปด้วย ^^
...
โดยปกติ หากเราได้รับการเชิญมาสัมภาษณ์งานแล้ว นั่นแปลว่า เราก็มีดี "พอตัว"
หมายความว่า Profile ของเรา ทั้งเรื่องประวัติการทำงาน, ประวัติความรู้ความสามารถ รวมไปถึงบุคลิกเบื้องต้นนั้น...ได้รับความสนใจในระดับหนึ่ง
เหลือเพียงการนำเสนอหรือ "ขาย" ตัวเราเอง ให้ดีที่สุดเท่านั้น
...
ถึงตรงนี้ ก็ต้องเตือนคนที่กำลังรอรับโบนัส เพื่อไปเริ่มความท้าทายใหม่ๆ ในปีหน้า ว่า การ "ขายตัวเอง" นั้น ไม่ได้หมายความว่า ให้เรา "ขี้โม้"
หากแต่การขายตัวเองที่ว่านั้น หมายถึง การนำเสนอ Competency และ Potential ของเรา ในรูปแบบที่เราคิดว่า ผู้สัมภาษณ์ จะ "ชอบ" และ "สนใจ"
นี่เอง ที่ผมบอกว่า เป็นโอกาสได้ดูไหวพริบและทักษะของ Candidate...ซึ่งจะได้งานหรือไม่ ก็มักจะวัดกันจากจุดนี้
ส่วนที่ว่า Candidate จะมีความสามารถดีเลิศตามที่แจงไว้ในใบสมัครรึเปล่านั้น ผมไม่ค่อยกังวล...เพราะถ้า "โม้" มา ก็รับรองว่า ไม่มีโอกาสได้ผ่าน probation แน่ๆ
...
ถ้าเราเป็น Candidate ระดับปฏิบัติการ ควรเน้นให้ผู้สัมภาษณ์เห็นความสามารถของเรา ในเชิง "ลึก"
ถ้าเราเป็น Candidate ระดับบังคับบัญชา ควรเน้นให้ผู้สัมภาษณ์เห็นความสามารถของเรา ในเชิง "กว้าง"
ถ้าเราเป็น Candidate ระดับบริหาร ควรเน้นให้ผู้สัมภาษณ์เห็นความสามารถของเรา ในเชิง "รอบ"
โปรดจำไว้ว่า ผู้สัมภาษณ์ ไม่ได้คาดหวังจะได้ Candidate ที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ หากแต่คาดหวัง Candidate ที่สามารถจะทำงานได้ใกล้เคียงกับที่ได้บรรยายตัวเองไว้ในใบสมัคร
ดังนั้น อย่าโม้อะไรที่ไม่สามารถทำได้ และอย่าเอาแต่เขียนให้ตัวเองดูดี...ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้เป็นอย่างที่เขียน
และต้องเตือนตัวเองให้ดีว่า กำลังท้าทายงานที่มากเกินกว่าขีดความสามารถของตัวเองหรือไม่
...หา "งาน" ใหม่ ไม่เหมือนหา "เงิน" ใหม่ นะครับ...
#พูดเก่งต่างจากทำงานเก่ง #ความสามารถระดับนายสิบอย่าริสมัครเป็นนายพัน #ตอบและถามคำถามด้วยข้อเท็จจริงในแบบที่คนอยากฟัง
บ่ายวันนี้ ผมมีภารกิจในการสัมภาษณ์ Candidate ท่านหนึ่ง ที่ Management Board คาดหวังไว้สูงมาก
เอาจริงๆ แล้ว Job Interview เป็นหนึ่งในงานที่ผมชอบไม่น้อยเลย เพราะถือเป็นโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมุมมองกับคนใหม่ๆ
ที่สำคัญ ผมถือเป็นโอกาสได้ลับสมองประลองไหวพริบในการตั้งคำถามและตอบคำถามไปด้วย ^^
...
โดยปกติ หากเราได้รับการเชิญมาสัมภาษณ์งานแล้ว นั่นแปลว่า เราก็มีดี "พอตัว"
หมายความว่า Profile ของเรา ทั้งเรื่องประวัติการทำงาน, ประวัติความรู้ความสามารถ รวมไปถึงบุคลิกเบื้องต้นนั้น...ได้รับความสนใจในระดับหนึ่ง
เหลือเพียงการนำเสนอหรือ "ขาย" ตัวเราเอง ให้ดีที่สุดเท่านั้น
...
ถึงตรงนี้ ก็ต้องเตือนคนที่กำลังรอรับโบนัส เพื่อไปเริ่มความท้าทายใหม่ๆ ในปีหน้า ว่า การ "ขายตัวเอง" นั้น ไม่ได้หมายความว่า ให้เรา "ขี้โม้"
หากแต่การขายตัวเองที่ว่านั้น หมายถึง การนำเสนอ Competency และ Potential ของเรา ในรูปแบบที่เราคิดว่า ผู้สัมภาษณ์ จะ "ชอบ" และ "สนใจ"
นี่เอง ที่ผมบอกว่า เป็นโอกาสได้ดูไหวพริบและทักษะของ Candidate...ซึ่งจะได้งานหรือไม่ ก็มักจะวัดกันจากจุดนี้
ส่วนที่ว่า Candidate จะมีความสามารถดีเลิศตามที่แจงไว้ในใบสมัครรึเปล่านั้น ผมไม่ค่อยกังวล...เพราะถ้า "โม้" มา ก็รับรองว่า ไม่มีโอกาสได้ผ่าน probation แน่ๆ
...
ถ้าเราเป็น Candidate ระดับปฏิบัติการ ควรเน้นให้ผู้สัมภาษณ์เห็นความสามารถของเรา ในเชิง "ลึก"
ถ้าเราเป็น Candidate ระดับบังคับบัญชา ควรเน้นให้ผู้สัมภาษณ์เห็นความสามารถของเรา ในเชิง "กว้าง"
ถ้าเราเป็น Candidate ระดับบริหาร ควรเน้นให้ผู้สัมภาษณ์เห็นความสามารถของเรา ในเชิง "รอบ"
โปรดจำไว้ว่า ผู้สัมภาษณ์ ไม่ได้คาดหวังจะได้ Candidate ที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ หากแต่คาดหวัง Candidate ที่สามารถจะทำงานได้ใกล้เคียงกับที่ได้บรรยายตัวเองไว้ในใบสมัคร
ดังนั้น อย่าโม้อะไรที่ไม่สามารถทำได้ และอย่าเอาแต่เขียนให้ตัวเองดูดี...ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้เป็นอย่างที่เขียน
และต้องเตือนตัวเองให้ดีว่า กำลังท้าทายงานที่มากเกินกว่าขีดความสามารถของตัวเองหรือไม่
...หา "งาน" ใหม่ ไม่เหมือนหา "เงิน" ใหม่ นะครับ...
#พูดเก่งต่างจากทำงานเก่ง #ความสามารถระดับนายสิบอย่าริสมัครเป็นนายพัน #ตอบและถามคำถามด้วยข้อเท็จจริงในแบบที่คนอยากฟัง
Comments
Post a Comment