Post#4-093:
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นำพาทุกองค์กรไปสู่ความสำเร็จนั้น ย่อมต้องมีเรื่องของ Alignment (ความเป็นไปในทางเดียวกัน) อยู่ด้วยเสมอ
และเมื่อใดก็ตามที่เราคุยเรื่ององค์กร...เราไม่อาจจะเป็น One Man Show ได้...ด้วยเพราะเราต้องก้าวไปข้างหน้าไปอย่างสอดคล้องกับคนอื่นๆ
แต่ละคนเก่งหรือไม่นั้น ก็สำคัญอยู่...หากแต่จะก้าวไปข้างหน้าได้พร้อมๆ กันมั๊ยนั้น...กลับสำคัญยิ่งกว่า
...
ลองนึกภาพตามผมนะครับ...ว่าการทำงานในองค์กรก็ไม่ต่างกับการวิ่ง 31 ขา หรือการแข่งเรือ
แปลว่า ต่างคนต่างวิ่งก็ไม่ได้ หรือต่างคนต่างจ้วงพายก็ไม่ดี
ไม่ว่าเราจะเป็นนักวิ่งระดับโลก หรือนักแข่งเรือเหรียญทองโอลิมปิค...หากแต่เราไม่สามารถวิ่งให้พร้อมๆ กับคนอื่นได้ หรือพายไม่พร้อมกับฝีพายอื่นได้...
ถามหน่อยเถอะครับ...ว่าเราจะชนะการแข่งขันได้ยังไง?
...
ดังนั้น ใครที่ต้องการจะก้าวขึ้นเป็น "ผู้นำที่ดี" จึงต้องมุ่งสู่ชัยชนะของ "ทีม" มากกว่าชัยชนะของ "ตน"
แม้ว่าตัวเองจะเก่งเลิศ แต่ไม่อาจนำทีมได้...ก็คงไม่มีประโยชน์อันใด เพราะแข่งกี่ที ก็จะมีแต่แพ้พ่าย
ดีแล้วใช่มั๊ยครับ? หากว่า เราจะเป็นพนักงานที่ทำงานเก่งมาก เลยไม่อยากสุงสิงกับใคร, ไม่แคร์ใคร...ฉันอยู่ได้สบายๆ ว่างั้น
อยู่มาวันหนึ่ง เราได้รับการเลื่อนตำแหน่ง แต่ต้องกลายเป็นหัวหน้าที่ไม่มีใครอยากรวมทีมด้วย...
คิดออกมั๊ยครับ ว่าชีวิตการงาน จะเป็นยังไง?
...
ไม่ว่าจะเป็นวิ่ง 31 ขา หรือการแข่งเรือ ก็แล้วแต่...
"ผู้นำ" จำต้องเชี่ยวชาญในการจัดวางตำแหน่งของแต่ละคนให้เหมาะสม และจำต้องประเมินศักยภาพของทุกคนในทีมได้อย่างชัดเจน
และมันสำคัญยิ่งกว่า ที่ "ผู้นำ" จะต้องสร้างความเข้าใจให้ทุกคนในทีม "เข้าใจ" อย่างแท้จริง ว่า...
"ต้องวิ่งให้พร้อมที่สุดอย่างเร็วที่สุด" ไม่ใช่ "ต้องวิ่งให้เร็วที่สุดอย่างพร้อมที่สุด"
หรือ "ต้องแจวให้พร้อมที่สุดอย่างเร็วที่สุด" ไม่ใช่ "ต้องแจวให้เร็วที่สุดอย่างพร้อมที่สุด"
...เมื่อใดที่ทำได้...พลังทีม (ที่แม้แต่ละคนจะไม่ใช่คนเก่งที่สุด) จึงจะแสดงพลังอันแท้จริงที่สามารถจะสยบได้แม้พลังของคนที่เก่งที่สุดในโลก (ที่เดียวดายไร้ทีม) ได้...
#รวมกันเราอยู่ #สู้เพื่อทีม #ชนะพร้อมกันหลายๆคนคือชัยชนะที่แท้จริง #TeamSpirit
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นำพาทุกองค์กรไปสู่ความสำเร็จนั้น ย่อมต้องมีเรื่องของ Alignment (ความเป็นไปในทางเดียวกัน) อยู่ด้วยเสมอ
และเมื่อใดก็ตามที่เราคุยเรื่ององค์กร...เราไม่อาจจะเป็น One Man Show ได้...ด้วยเพราะเราต้องก้าวไปข้างหน้าไปอย่างสอดคล้องกับคนอื่นๆ
แต่ละคนเก่งหรือไม่นั้น ก็สำคัญอยู่...หากแต่จะก้าวไปข้างหน้าได้พร้อมๆ กันมั๊ยนั้น...กลับสำคัญยิ่งกว่า
...
ลองนึกภาพตามผมนะครับ...ว่าการทำงานในองค์กรก็ไม่ต่างกับการวิ่ง 31 ขา หรือการแข่งเรือ
แปลว่า ต่างคนต่างวิ่งก็ไม่ได้ หรือต่างคนต่างจ้วงพายก็ไม่ดี
ไม่ว่าเราจะเป็นนักวิ่งระดับโลก หรือนักแข่งเรือเหรียญทองโอลิมปิค...หากแต่เราไม่สามารถวิ่งให้พร้อมๆ กับคนอื่นได้ หรือพายไม่พร้อมกับฝีพายอื่นได้...
ถามหน่อยเถอะครับ...ว่าเราจะชนะการแข่งขันได้ยังไง?
...
ดังนั้น ใครที่ต้องการจะก้าวขึ้นเป็น "ผู้นำที่ดี" จึงต้องมุ่งสู่ชัยชนะของ "ทีม" มากกว่าชัยชนะของ "ตน"
แม้ว่าตัวเองจะเก่งเลิศ แต่ไม่อาจนำทีมได้...ก็คงไม่มีประโยชน์อันใด เพราะแข่งกี่ที ก็จะมีแต่แพ้พ่าย
ดีแล้วใช่มั๊ยครับ? หากว่า เราจะเป็นพนักงานที่ทำงานเก่งมาก เลยไม่อยากสุงสิงกับใคร, ไม่แคร์ใคร...ฉันอยู่ได้สบายๆ ว่างั้น
อยู่มาวันหนึ่ง เราได้รับการเลื่อนตำแหน่ง แต่ต้องกลายเป็นหัวหน้าที่ไม่มีใครอยากรวมทีมด้วย...
คิดออกมั๊ยครับ ว่าชีวิตการงาน จะเป็นยังไง?
...
ไม่ว่าจะเป็นวิ่ง 31 ขา หรือการแข่งเรือ ก็แล้วแต่...
"ผู้นำ" จำต้องเชี่ยวชาญในการจัดวางตำแหน่งของแต่ละคนให้เหมาะสม และจำต้องประเมินศักยภาพของทุกคนในทีมได้อย่างชัดเจน
และมันสำคัญยิ่งกว่า ที่ "ผู้นำ" จะต้องสร้างความเข้าใจให้ทุกคนในทีม "เข้าใจ" อย่างแท้จริง ว่า...
"ต้องวิ่งให้พร้อมที่สุดอย่างเร็วที่สุด" ไม่ใช่ "ต้องวิ่งให้เร็วที่สุดอย่างพร้อมที่สุด"
หรือ "ต้องแจวให้พร้อมที่สุดอย่างเร็วที่สุด" ไม่ใช่ "ต้องแจวให้เร็วที่สุดอย่างพร้อมที่สุด"
...เมื่อใดที่ทำได้...พลังทีม (ที่แม้แต่ละคนจะไม่ใช่คนเก่งที่สุด) จึงจะแสดงพลังอันแท้จริงที่สามารถจะสยบได้แม้พลังของคนที่เก่งที่สุดในโลก (ที่เดียวดายไร้ทีม) ได้...
#รวมกันเราอยู่ #สู้เพื่อทีม #ชนะพร้อมกันหลายๆคนคือชัยชนะที่แท้จริง #TeamSpirit
Comments
Post a Comment